อย่าให้เรื่องเงียบ แชมป์ลาเต้อาร์ตอนาคตดับวูบ หลังลูกตำรวจใหญ่ขับรถชนจนขาขาด ผู้ก่อเหตุไม่เหลียวแล ชีวิตทุกข์ยาก เมีย-ลูกน้อยลำบาก วอนขอความเป็นธรรม
.
นายอาธร สุทธิชัย อายุ 29 ปี กัปตันบาร์เทนเดอร์ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านเมืองทองธานี และเป็นอดีตแชมป์ลาเต้อาร์ต ของร้านกาแฟในเครือเมืองทองธานี พักอยู่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ภายในซอยศรีพรสวรรค์ ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรม ว่าประสบอุบัติเหตุถูกรถเก๋งพุ่งชน บริเวณทางเข้าซอยสหกรณ์ 3 ถนนติวานนท์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขณะกำลังขับรถจยย.กลับที่พักหลังเลิกงาน เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา
.
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ต้องถูกตัดขากลายเป็นคนพิการ ผ่านมาเกือบจะ 3 เดือนแล้วยังไม่เคยเห็นหน้าคู่กรณี เกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้าเพราะรู้มาว่าพ่อของคู่กรณีเป็นนายตำรวจใหญ่
.
โดยนายอาธร พร้อม น.ส.ผกาวรรณ อายุ 25 ปี ภรรยาและลูกสาววัย 2 ขวบ พักอยู่ในห้องเช่าแคบๆ อยู่ในสภาพขาข้างซ้ายถูกตัดเหนือเข่า มีผ้าก๊อซปิดร่องรอยแผลที่ถูกตัด ที่แขนข้างขวาและที่ใบหน้าบริเวณปากมีรอยดำคล้ำจากแผลที่ครูดไปกับถนน
.
นายอาธร เล่าถึงวันที่เกิดเหตุเป็นคืนวันที่ 3 เมษายน 65 เวลาประมาณ 00.30 น. หลังจากเลิกงาน ตนก็ได้ขับรถจยย.ฮอนด้า PCX 125 ทะเบียน 7 กม 256 กทม. เพื่อเดินทางกลับที่พัก โดยใช้ถนนติวานนท์ มุ่งหน้าห้าแยกปากเกร็ด ขณะขับมาถึงบริเวณทางเข้าซอยสหกรณ์ 3 จู่ๆ มีรถเก๋งคันคู่กรณีขับพุ่งออกมาจากซอยชนที่บริเวณด้านซ้ายรถจนกระเด็นไถลไปตามถนนหลังจากนั้นตนก็ไม่รู้สึกตัวเลย มารู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่รพ.แล้ว หลังเกิดเหตุตนยังไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจากคู่กรณีเลย มีเพียงครั้งเดียวที่ทางคู่กรณีให้ญาติเขาโทรมาหาแล้วบอกว่าขอเลขบัญชีจะโอนเงินช่วยเหลือ แต่ก็เงียบไปเรื่องนี้ผ่านมาจะเกือบ 3 เดือนแล้ว ยังไม่มีการเจรจาเรื่องชดใช้ค่ารักษาพยาบาล สอบถามไปทางตำรวจสภ.ปากเกร็ด ก็ได้รับคำตอบว่าตอนนี้กำลังติดตามเรื่องให้อยู่ ตนทราบมาว่าพ่อของคู่กรณีเป็นนายตำรวจยศ พ.ต.ท.อยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
.
ด้าน พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด กล่าวว่าสำหรับในเรื่องนี้ ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุได้สั่งให้ทางพนักงานสอบสวนตรวจสอบหาหลักฐานว่าความประมาทเกิดจากฝ่ายใด กระทั่งทราบว่าเกิดจากทางฝ่ายคู่กรณี อย่างไรก็ตามได้กำชับให้ทางพนักงานสอบสวนเร่งประสานนัดทางผู้เสียหายและคู่กรณีมาเจรจาชดใช้ค่าเสียหายต่อไป