ศาลอาญาสั่งไม่ให้ประกันตัวหลานอดีตรัฐมนตรีคดีข่มขืนดาราสาว หลังตำรวจโชคชัยคุมตัวฝากขัง ชี้ผู้ต้องหาไม่ยอมให้ตรวจสอบโทรศัพท์-แชตไลน์ หากปล่อยตัวอาจไปยุ่งเหยิงพยานทำลายหลักฐาน ให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (30 ส.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.โชคชัยได้คุมตัว นายอภิดิศร์ หรือ เอ็ม อินทุลักษณ์ อายุ 33 ปี หลานชายอดีต รมว.ต่างประเทศ ผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค.-10 ก.ย. 2565 ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
.
คำร้องระบุพฤติการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอดิศร์ ผู้กล่าวหา เพื่อติดต่อว่าจ้างให้ผู้เสียหายรีวิวสินค้า เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยที่ผู้เสียหายไม่ได้รู้จักกันมาก่อน จากนั้นได้มีการแลกเปลี่ยนำอดีไลน์กันเพื่อติดต่อทางธุรกิจ ต่อมาวันที่ 9 ส.ค. 2565เวลา 18.30 น.ผู้เสียหายได้ส่งภาพโปรไฟล์ที่ระบุความสามารถ และจะมีผลงานเพลง ด้านผู้ต้องหาแสดงสนใจและต้องการสนับสนุนผลงานจึงขอฟังเพลงและดูมิวสิกวิดีโอ แต่ผู้เสียหายไม่สามารถส่งให้ดูทางไลน์ได้ เพราะไฟล์ใหญ่และกลัวผลงานจะหลุดออกไปเผยแพร่เสียก่อน จึงนัดกับผู้ต้องหาไปคุยงานในวันนั้นด้วยตัวเอง เพราะเป็นวันดังกล่าวผู้เสียหายเกิดมีปัญหาทะเลาะกับ พี่สาวบุญธรรมและเป็นผู้จัดการส่วนตัวดูแลเรื่องงานทุกอย่าง ต่อมา เวลา23.30น. ทั้งสองได้นัดเจอกันห้องพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว ผู้ต้องหาได้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (โซจู)มาด้วย ระหว่างคุยจึงมีการดื่มแอลกอฮอล์ หลังจากนั้นไม่ได้แล้ว มีอาการร มึนงง จำได้เพียงบางตอน เหมือนคุยงานกันเสร็จ ผู้ต้องหาจะกลับแล้ว ตนก็รูึกอ่อนเพลียจึงเรียกรถ(Grab) กลับขึ้นไปพักที่ห้อง และนอนหลับไป ต่อมาช่วงบ่ายวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ผู้เสียหายรู้สึกตัวตื่น มีของเหลวไหลออกมาจากช่องคลอด พี่สาวเข้ามาดูและบอกว่าคือ อสุจิ จึงไปตรวจร่างกายที่ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช ในเวลา 23.00 น. และวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา ผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ และมีการแจ้งข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน จนกระทั่งวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลา10.00 น. พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานายอภิดิศร์ ปวิอาญา ม.134 ฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ตามป.อาญา มาตรา 276
.
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยังต้องสอบพยานเพิ่มอีก 4 ปาก และรอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลการตรวจลายนิ้วมือและประวัติต้องโทษผู้ต้องหา จึงขอศาลออกหมายขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวน 12 วัน หากผู้ต้องหาขอปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านเพราะเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน อีกทั้งผู้เสียหายได้ยื่นคำร้องขอคัดค้านเนื่องจากกลัวว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน
.
ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
.
ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขังแล้ว ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เงินสด 200,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวชั้นฝากขัง
.
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า มีผู้ร้องคัดค้านการปล่อยชั่วคราว รวมทั้งมีผู้เสียหายคัดค้านด้วย หากปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาแล้ว อาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบผู้ต้องหาไม่ยินยอมให้พนักงานสอบสวนตรวจโทรศัพท์ของผู้ต้องหา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในแชตไลน์ กรณีมีเหตุให้เชื่อว่าหากปล่อยชั่วคราวแล้ว ผู้ต้องหาอาจทำลายหลักฐานและยุ่งเหยิงกับพยาน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง และออกหมายขังส่งไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร