อยากรู้ชื่อคอนโดฯ และบริษัทนิติบุคคลที่บริหารเลยคนับ! เหตุภัยผู้หญิงคราวนี้ถูกเปิดเผยจากพี่ชายที่น้องสาวผู้อาศัยอยู่ในคอนโดย่านซอยวิภาวดี 60 เปิดภาพวงจรปิดชายผิวสีนุ่งกางเกงในตัวเดียว เดินกุมอวัยวะเพศพยายามไล่เปิดประตู แต่นิติฯ กลับไม่ยอมแจ้งลูกบ้าน ยกพรบ.PDPA อ้าง แต่หญิงสาวผู้เสียหายมองว่านิติฯ กลัวผู้เช่าย้ายออก เจ้าตัวพ้อ เข้าแจ้งความแต่ตำรวจเอา “ข้อมูลส่วนตัวทั้งหมด” ให้แก่ “ผู้ต้องหา” หวั่นใจความปลอดภัย
.
เตือนภัยคนที่อาศัยในคอนโด ผู้ใช้เฟซบุคได้บอกเล่ากรณีน้องสาวไปเช่าคอนโดแห่งหนึ่งย่านซอยวิภาวดี 60 แต่จู่ ๆ กลับมีคนพยายามจะเปิดประตูห้องที่ล็อกอยู่ เมื่อไปดูกล้องวงจรปิดพบว่า คนก่อเหตุคือชายผิวสี ใส่กางเกงในตัวเดียว เอามือจับอวัยวะเพศตลอดเวลา โดยชายคนดังกล่าว เดินมาผลักประตูห้องสองครั้ง เมื่อเปิดไม่ได้ก็พยายามไปเปิดประตูอีกห้องซึ่งเป็นแม่ลูกอีกด้วย แต่โชคดีที่ห้องแม่ลูกไม่มีคนอยู่ ณ เวลานั้น
.
หลังเกิดเรื่อง เจ้าของห้อง ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้บอกเล่าเรื่องราว ได้สอบถามทางนิติบุคคลคอนโดถึงมาตรการความปลอดภัย ปรากฏว่าได้รับการชี้แจงว่าไม่สามารถติดป้ายเตือนลูกบ้านได้ ให้เหตุผลว่า
.
“จะกระทบกับเอเจนซี่ซึ่งมีผู้เช่ากว่า 60 ห้อง โดยอ้างว่าหากไปติดรูปผู้ก่อเหตุจะผิดกฎ PDPA เพราะผู้ชายในคลิปยังไม่ได้ย้ายออก”
.
ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีเพราะทั้งที่เกิดเหตุเช่นนี้ แต่ห้องอื่นกลับไม่รู้เรื่องและจะได้ระวังตัว เธอมองว่านิติไม่ทำให้ลูกบ้านรู้สึกปลอดภัยเท่าที่ควร แต่กลับเกรงว่าคนเช่าบางรายจะย้ายออกแทน ทั้งที่ควรจะนึกถึงส่วนรวมมากกว่าหรือไม่
.
หญิงผู้เกือบตกเป็นเหยื่อรายนี้เข้าแจ้งความไว้แล้ว ตำรวจเรียกผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหาและจ่ายค่าปรับ 5,000 บาท ซึ่งเจ้าตัวให้โอนเงินไปโรงพยาบาล 3,000 บาทแทนค่าทำขวัญ ส่วนเรื่องการบังคับย้ายออกทันที นิติฯ ต้องให้เอเจนซี่เป็นคนแจ้งผู้ต้องหา สุดท้ายน้องสาวก็อยู่ห้องนี้ต่อไม่ได้ จึงตัดสินใจย้ายออกและยังถูกยึดเงิน 15,000 บาทเพราะย้ายออกก่อนกำหนด ซ้ำยังไม่สบายใจกับเรื่องที่ตำรวจนำใบบันทึกประจำของน้องสาวมอบให้กับฝ่ายผู้ต้องหา ทั้งที่ข้างในมีข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดอีกด้วย
.
และอัพเดทล่าสุด เจ้าของเรื่องราวเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ผู้ก่อเหตุย้ายออกไปแล้ว ส่วนเรื่องเงินมัดจำที่ขอย้ายออกก่อนกำหนด ทางเจ้าของห้องตกลงที่จะคืนเงินดังกล่าวให้แล้วเช่นกัน