หลานทรพีกระซวกป้า14แผลเพื่อชิงทรัพย์ ถูกศาลอินเดียสั่งจำคุกตลอดชีวิตในอินเดีย เหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นเมื่อปี 2014 และผู้ชี้เป้าคนร้ายรายแรกคือ “นกแก้ว”
.
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 “นีลัม ชาร์มา” สตรีชาวอินเดียถูกฆาตกรรมในบ้านของเธอเองที่รัฐอุตตรประเทศ บนร่างกายพบบาดแผลถูกแทง 14 แผล และทรัพย์สินในบ้านบางส่วนหายไป โมฮัมเมด ราชิด ผู้พิพากษาพิเศษ ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต นายอาชู ชาร์มา หลานชายแท้ๆ ของผู้ตาย และนายรอนนี มาสซีย์ ผู้ร่วมลงมือ พร้อมกับปรับเงิน 72,000 รูปี (ราว 30,000 บาท) เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (23 มี.ค.) บนพื้นฐานของหลักฐานพยานที่รวบรวมได้ หลังจากนายอาชู รับสารภาพว่าได้ร่วมมือกับเพื่อนลงมือฆ่านางนีลัม ชาร์มา ป้าของเขาเอง
.
จากคำให้การหลังเกิดเหตุของสามีของผู้เสียชีวิตเล่าว่า เขาออกจากบ้านไปร่วมงานแต่งงาน พร้อมกับลูกชายและลูกสาว ส่วนภรรยาอยู่ที่บ้านคนเดียวในวันนั้น และเมื่อพวกเขากลับมาบ้านในตอนดึก ก็ต้องช็อกที่พบศพของภรรยาและสุนัขที่เลี้ยงไว้ ทั้งสองถูกฆ่าด้วยของมีคม จึงรีบแจ้งตำรวจทันที
.
สามีของผู้เสียชีวิตบอกเพิ่มเติมด้วยว่า ตั้งแต่เกิดโศกนาฏกรรมนกแก้วสัตว์เลี้ยงที่ไว้ก็หยุดกินและดื่ม มันเงียบไปไม่ยอมส่งเสียงเจื้อยแจ้วเหมือนปกติ ทำให้เขาสงสัยว่านกแก้วอาจรู้เห็นการฆาตกรรม ดังนั้นเขาจึงลองพูดชื่อผู้สงสัยทีให้นกแก้วฟังทีละคนๆ กระทั่งมาถึงชื่อหลานชายอย่าง “อาชู”
.
ทันทีที่นกแก้วได้ยินชื่อนี้ก็แสดงอาการตื่นตระหนก และเริ่มกรีดร้องว่า “อาชู! อาชู!” แม้แต่ต่อหน้าตำรวจก็ยังพยายามที่จะตะโกนออกมา ราวกับว่าต้องการให้ตำรวจสามารถล็อกตัวผู้ต้องสงสัยที่เป็นเป้าหมายได้
.
นิเวธิดา ชาร์มา หลานสาวของ นีลัม ระหว่างให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อินเดีย ทูเดย์ เล่าว่า นายอาชู มีความตั้งใจลงมือ “ปล้นฆ่า” เนื่องจากเขารู้ว่าป้านีลัม และสามีเก็บเงินสดและเครื่องประดับไว้ที่ไหน เหตุเพราะเขาเคยมาเยี่ยมเยือนบ้านของป้าหลายครั้งแล้ว และกระทั่งเคยพักอาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลาหลายปี นอกจากนี้ นิเวธิดา ยังเผยด้วยว่าพ่อของเธอยังเคยแม้กระทั่งช่วยออกเงินให้หลานชายรายนี้ 80,000 รูปี (ราว 33,000 บาท) ได้ร่ำเรียนปริญญาโทบริหารธุรกิจ
.
อย่างไรก็ตาม นกตัวนี้อยู่ไม่ถึงบทสรุปท้ายสุดของกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากมันตายตามหลังผู้เป็นเจ้าของราวๆ 6 เดือน ส่วน วิเจย์ ชาร์มา สามีของนีลัม ก็เสียชีวิตเช่นกันในเดือนพฤศจิกายน 2020 ทั้งนี้ ลูกสาวของทั้งคู่ บอกว่าถ้าทั้ง 2 คนยังอยู่ ท่านคงไม่พอใจกับบทลงโทษดังกล่าว โดยเธอให้สัมภาษณ์กับอินเดีย ทูเดย์ว่า “ครอบครัวของฉันต้องการให้แขวนคออาซู และทั้งครอบครัวจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา ให้เขาได้ชดใช้ความผิด