เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ ทรงร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกคิงอังกฤษ ใน “ชุดทหาร” และถวายงานราชอารักขาพระบรมเชษฐา โซเชียลทั้งโลกชื่นชนจนเป็นไวรัล
.
เป็นพระบรมวงศ์ผู้ใหญ่ของราชวงศ์วินเซอร์แห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ ที่ทรงงานหนักมากในทุกๆ ปี และผลโพลจากชาวอังกฤษก็ชื่นชม “เจ้าฟ้าหญิงแอนน์” พระขนิษฐาในสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่3 มาก โดยในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่3และพระราชินีคามิลลาในวันนี้ เจ้าหญิงแอนน์ที่ร่วมงานในฉลองพระองค์ทหารและทรงปฏิบัติหน้าที่อย่างทหาร กลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียล


.
วันนี้ (6 พ.ค.) จัดเป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลก สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่3 ทรงเข้าพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สวมพระมหามงกุฎเซนต์เอ็ดเวิร์ด ณ เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ พระองค์ที่ 40 นับจากพระเจ้าวิลเลียมผู้พิชิต ณ ปี 1066 ต่อด้วยพระราชพิธีสถาปนาพระราชินีคามิลล่า ซึ่งมีพระบรมวงศ์จากราชวงศ์วินเซอร์ พระประมุข ผู้แทนพระองค์ พระราชอาคันตุกะ พระอาคันตุกะ เสด็จฯ และเข้าร่วมพระราชพิธี ซึ่งนับเป็นเวลา 70 ปี จากการเถลิงถวัลยราชสมบัติของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2 พระประมุขพระองค์ที่แล้ว


เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ วรราชกุมารี (Princess Royal) ปรากฏพระองค์ ณ เวสต์มินสเตอร์ด้วยฉลองพระองค์นายพันเอกแห่งกองทหารม้ารักษาพระองค์ Blues and Royals ประทับแถวหน้าสุดในแถวพระบรมวงศ์ผู้ใหญ่ พร้อมด้วยพลเรือโท เซอร์ ทิโมธี ลอว์เรนซ์ พระสวามี
.
เหตุที่พระองค์ฉลองพระองค์นายทหารม้า เพราะหลังจากพระราชพิธีภายในเวสต์มินสเตอร์เสร็จสิ้น สมเด็จพระเจ้าชาร์ลสที่3 และสมเด็จพระราชินีคามิลล่า ประทับพระราชรถม้า เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชวังบักกิ้งแฮม และเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ ทรงม้าตามติดหลังพระราชรถม้า ถวายอารักขาแด่พระบรมเชษฐาและสมเด็จพระราชินี สร้างความชื่นชมและประทับใจแก่ชาวโซเชียลจนกลายเป็นไวรัล
.
นอกจากนี้ เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ ยังเสด็จฯ ไปรวมกับกองทหารทุกเหล่าทัพที่ถวายความจงรักภักดีแด่กษัตริย์พระองค์ใหม่ ก่อนจะเสด็จฯ ตามมาออกสีหบัญชร
.
สำหรับเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ ทรงพระปรีชาในการทรงม้า เช่นเดียวกับพระบรมราชมารดา ทรงเป็นนักกีฬาและเป็นทหารที่เข้มแข็ง แม้พระชนมายุล่วงเข้า 72 พรรษา ซึ่งในงานพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง พระองค์ทรงเป็นเจ้านายฝ่ายในพระองค์เดียว ที่ไม่ประทับรถพระที่นั่งตามหีบพระบรมศพ แต่ทรงเสด็จพระราชดำเนินด้วยพระบาทไปตลอดทางในฐานะนายทหารเช่นกัน