ตกใจทั้งจุฬาฯ ศ.ดร.สุรพล วิรุฬห์รักษ์ และภริยาธีราพร โดน“บิ๊กไบค์” ชน ข้ามทางม้าลาย เช็ควงจรปิดพบมอเตอร์ไซค์พุ่งเต็มเหยียด ไม่มีหักหลบ กู้ภัยนำส่งรพ. เข้าไอซียูทั้งคู่ ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว

ศ.ดร.สุรพล วิรุฬห์รักษ์ อุปนายกราชบัณฑิตยสภา คนที่ 2 และภริยาธีราพร ประสบอุบัติเหตุโดยมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ชนอย่างแรง อาการแรกรับสาหัส ต้องอยู่ไอซียูทั้งคู่ โดย ดร.พร วิรุฬห์รักษ์ บุตรชาย ได้โพสต์เรื่องราวเหตุการณ์ระบุว่า

รื่องขอชี้แจงเรื่องอุบัติเหตุของคุณพ่อ ศาสตราจารย์ กิตติคุณ ดร. สุรพล วิรุฬห์รักษ์ และ คุณแม่ นางธีราพร วิรุฬห์รักษ์ ขณะนี้อาการทั้งสองท่านปลอดภัย และพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ตึกภูมิสิริ โดยที่ทางโรงพยาบาลไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าเยี่ยม เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์โควิด โดยภาพรวมคุณพ่อคุณแม่จะฟื้นตัวกลับมาเหมือนเดิมได้แน่นอน แต่ต้องใช้เวลาสักพักหนึ่ง ขณะนี้ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาฯอยู่ครับ เพราะคุณแม่ยังต้องมีการใส่เครื่องช่วยดึงกระดูกอยู่ หากมีอะไร Update จะแจ้งให้ทุกท่านทราบเป็นระยะ

ขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง อยากขอเล่าเรื่องราวต่าง เพื่อเป็นบทเรียนและเป็นอุทธาหรณ์ แล้วแต่จะลองพิจารณาเพื่อเป็นประโยชน์ของชีวิตของท่าน

  • เมื่อเวลาประมาณ 21:00 คืนวันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ ผมได้รับโทรศัพท์ จากน้าชายของผมว่า คุณแม่ถูกรถชน ที่ราชวิถี ผมก็เดินทางไป
  • ที่ราชวิถีอาการคุณแม่ไม่ดีเลย – ผมพยายามโทรหาพ่อตลอดเวลา แต่พ่อไม่รับสาย และจนถึง 23:00 ผมเชื่อว่าพ่อได้รับอันตรายด้วย เพราะตามทุกที่แล้ว ไม่พบ จึงสอบถามทางพยาบาลว่ากู้ภัยพามาส่งจากที่ไหน พยาบาลบอกว่า จากแยกพญาไท เราก็คิดว่าน่าจะเป็นเขต สน.พญาไท จึงไปที่สน.
  • ไปสอบถามร้อยเวร ก็พบว่า มีบันทึกไว้เรียบร้อยถึงเหตุการณ์ ว่า มีอุบัติเหตุ และกู้ภัยแยกกันไปส่งโรงพยาบาล คุณแม่ไปราชวิถี คุณพ่อไปจุฬาฯ
  • สรุปคือ คุณแม่ อาการไม่ค่อยดี ต้องเข้า iCU ของราชวิถี คุณพ่อ ก็ขึ้นไป iCU ของจุฬาฯ
  • หลังจากนั้น ก็พยายามมีการตรวจสอบอาการว่าคุณแม่ย้ายได้หรือไม่ เนื่องจากคุณแม่อาการหนัก คุณหมอ ทางราชวิถีให้นอน iCU ไปสองวัน จากนั้นจึงย้ายมาจุฬาฯ
  • ก็เป็นอันว่ารวมอยู่ที่เดียวกัน ใน Ward อุบัติเหตุ ซึ่งก็คือ เหมือนเป็น ER แต่แบบเป็นแนวพักฟื้นแล้ว ไม่ใช่การรักษา (อันนี้ตีความเอง)

ประเด็นคือเกิดอะไรขึ้น
.

  • เนื่องจากคนขับมอเตอร์ไซค์ ไปอยู่อีกโรงพยาบาล และยังผ่าตัดอยู่ ก็เลยยังไม่ได้คุย แต่ มีข้ออ้างจากเพื่อนของคนที่ขี้มอเตอร์ไซค์มาด้วยกันว่า เป็นการหักหลบรถที่ขวางหน้า แล้ว พอหลบก็พลั้งมาโดนพ่อแม่
  • ผมก็ถามเพื่อนในวงสาธิตจุฬาฯ ที่มี อยู่เกือบทุกอาชีพ ว่าอยากขอติดต่อ เพื่อดูกล้องวงจรปิด เนื่องจากเกิดเหตุหน้าคอนโดโนเบิ้ลพญาไท และตรงข้ามกับ สถาบันโรคไต
  • เพื่อนๆ ก็ช่วยมาก ทยอยๆ ติดต่อหน่วยงานต่างๆ จนได้ภาพมาประกอบกัน และ ขอบคุณผอ.โรงพยาบาล สถาบันโรคไต ที่ช่วยให้นำภาพจากกล้อง มาดูกัน
  • ผลคือ ไม่มีการ หักหลบอะไร เป็นการเร่งเข้ามา ชนพ่อกับแม่ผมที่กำลังเดินข้ามทางม้าลายเข้ามาตรงๆ
  • ถ้าไม่มีกล้อง ก็คงเป็นเรื่องของข้ออ้าง เพราะพ่อแม่ผม จำอะไรไม่ได้เลย – จำได้แค่ข้ามถนนอยู่ ไม่แน่ใจว่า อยู่บนเกาะ หรือกลางถนน ด้วยซ้ำ
  • หลังจากนั้นพอคนขี่มอเตอร์ไซค์ฟื้นแล้ว ก็มีการสอบถาม เขาก็สารภาพว่า ไม่ได้หักหลบรถอะไร คือแค่ จะแซงขึ้น แล้วก็เร่งเครื่องมา เพราะเห็นถนนว่าง
  • เรื่องของเรื่องก็คือความประมาท
  • คนขับรถก็เป็นคนหาเช้ากินค่ำธรรมดา มีภรรยาที่ติดต่อผมตลอดด้วยความรู้สึกผิด มีพ่ออยู่ต่างจังหวัดที่เป็นแรงงานรายวันธรรมดา ทุกคนก็ตึงเครียดกันไปหมด ผมเห็นในสภาพนี้ก็ไม่ได้อยากจะไปกดดันอะไรมาก

นี่คือ อุบัติเหตุ ที่ทำให้คน สองวง สองครอบครัว วิกฤติไปหมด จากความประมาทของคนเพียงคนเดียว


บทเรียนของผมคือ
.

  • ทำไม่พ่อแม่ไม่มีเบอร์ของผมอยู่ในตัวเพื่อให้คนติดต่อได้ อันนีคือความผิดของเราในการจัดการโดยตรง
  • ในชีวิตเราไม่เคยคิดว่าจะมีวิกฤติ การที่พ่อแม่ ป่วยพร้อมกันแต่อยู่กันคนละที่ ทำให้การบริหารจัดการ วิกฤติมาก (Blackswan)
  • เราไม่รู้เรื่องระบบการ ดำเนินการเรื่องประกัน ค่ารักษาพยาบาลอะไรเลย เหมือนต้องเรียนรู้ไป แก้ปัญหาไปตึงเครียดไป ซึ่งของแบบนี้ มันเรียนรู้กันได้

* เราใช้ชีวิตหนัก ร่างกายไม่แข็งแรง พอเจอสถานการณ์นี้ 5 วันผ่านไป เดี้ยง ไม่สบาย ไอแค่กๆ ถ้าเราไม่มีเพื่อนๆ มาช่วย เราจัดการไม่ได้แน่ๆ. สุขภาพคือ Asset สำคัญจริงๆ

ต้องขอขอบคุณ

  • หน่วยกู้ภัยที่มาทันเวลาอย่างมีประสิทธิภาพมาก
  • คุณหมอและพยาบาลของทั้งสองโรงพยาบาล และหน่วยกู้ภัยที่ช่วยชีวิตพ่อแม่ของผมไว้

และ

* ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่มาช่วยกันดูแลคุณพ่อ คุณแม่ ในยามวิกฤตินี้

ต้องถือว่าโชคดีมาก จากภาพที่เห็นในกล้อง การชนที่เกิดขึ้นถือว่ารุนแรง แต่คุณพ่อคุณแม่ สามารถฟิ้นตัวได้เร็วมาก เพียง 4 วันก็พูดจาได้ เล่น LINE ได้แล้ว แต่ก็ต้องพักฟื้นต่อไปก่อนครับ


เรื่องคดีความ และการเรียกร้องจากประกันไม่ต้องเป็นห่วงเพราะมีทีมทำงานมาแล้วเรียบร้อยและหลักฐานกำลังรวบรวมไปตามระบบครับ

ก็ขอชี้แจงมาเพียงเท่านี้ – จะ Update ให้ทราบเป็นระยะครับ

พร และ แอ๊น