หากพูดถึง สแตน โครเอนเก้ ในมุมมองของแฟนผู้หลงรักในอเมริกันเกม โดยเฉพาะแฟน ๆ แอลเอ แลมพส์ คงปลิ้มในตัวเขาไม่ใช่น้อยที่เขาคอยทุ่มเททุ่มทุนสร้างทุกอย่างและสรรหาผู้เล่นชั้นยอด สนามชั้นเยี่ยมมาให้กับทีม นี่ยังไม่นับรวม เดนเวอร์ส นักเกตส์ สโมสรบาสเก็ตบอลที่เขาถือครองด้วยเช่นกันแต่หากเปลี่ยนมาเป็นชนิดกีฬาอย่างฟุตบอล แฟนอาร์เซน่อลคงจะมีแต่เสียงโห่ให้กับตระกูลนี้เพราะความรักที่เขามีต่อทีมฟุตบอลแห่งนี้ดันไม่เท่ากัน ทั้ง ๆ ที่สโมสรแห่งนี้ก็มีทั้งประวัติศาสตร์และความสำเร็จที่ผ่านมาไม่ใช้น้อย

ย้อนไปช่วงโควิด-19 ระบาดในช่วงแรกที่อังกฤษ อาร์เซน่อล เป็นหนึ่งในสโมสรที่หักทั้งเงินเดือนและปลดโค้ชและคนทำงานภายในสโมสรรวมไปถึง มาสคอตต์ ประจำทีมออกไปเนื่องจากต้องการสร้างสภาพคล่องทางการเงินภายในทีม ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นที่เข้าใจได้เพราะหลายสโมสรในยุโรปและในโลกต่างก็มีนโยบายนี้เช่นกัน แต่ในขณะที่สโมสรใหญ่พวกเขาจะพยายามจะคงรักษาและดูแลทีมต่อไปแม้จะยังขาดทุนไปบ้างแต่พวกเขาเหล่านั้นก็เชื่อว่าสักวันโลกจะกลับมาเหมือนเดิม

ล่าสุดนอกจากโครเอนเก้ เจ้าของจอมงก ก็ดันทำเรื่องให้แฟนบอลอาร์เซน่อลหนักใจอีกแล้วเมื่อพวกเขาไปกู้เงินจำนวน 120 ล้านปอนด์จากรัฐบาลของอังกฤษที่อยู่ในโครงการช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าอับอายหรือผิดแต่อย่างใดแต่หากมองถึงความเป็น โครเอนเก้ มหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินมากกว่า 10,000 ล้านดอร์ลาร์ มันจึงเป็นเรื่องที่แปลกเพราะพวกเขาสามารถนำเงินของเจ้าของมาพยุงทีม แม้จะมีรายละเอียดในเรื่อง FFP หรือ ไฟแน่นซ์เชี่ยลแฟร์เพลย์ ก็ตาม

ซึ่งแน่นอนว่าหากมองไปยังทรัพย์สินและเงินทุนของโครเอเก้ มันจะไม่สร้างภาระให้กับทีมแน่นอนและอัตราดอกเบี้ยคงไม่มีด้วยและหากมองไปยังทีมอื่น ๆ ที่เจ้าของเป็นระดับมหาเศรษฐีด้วยกันแล้ว เชลซี คือหนึ่งในทีมได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน แต่เจ้าของอย่าง โรมัน อัมบราโมวิช ยังคงสนับสนุนทีมอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องเงินทุนการเสริมทัพ เงินค่าจ้าง และการสร้างทีมต่าง ๆ ขนาดในช่วงที่ผ่านมีเหตุการณ์โควิดกระทบทีมพวกเขายังเสริมทีมเหมือนเป็นเรื่องปกติ

นอกจากนั้นยังพร้อมสนับสนุนพนักงานในสโมสรในเรื่องที่พักหากใครได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งถือเป็นสวัสดิการที่สุดยอดมาก ๆ เล่นเอาหลายทีมอิจฉากันเลยทีเดียวแน่นอนว่านี่ก็ยังคงเป็นคำถามของแฟนบอลอาร์เซน่อลเหมือนเดิมว่าสรุปแล้ว่า สแตน โครเอนเก้รักอาร์เซน่อลบ้างหรือไม?