เป็นใครๆ ก็ช็อค แต่งงานมีสามี พยายามมีลูกมาหลายปีแต่ไม่มี บังเอิญเจ็บข้อเท้าเข้ารพ. หมอพบจริงๆ แล้วเธอเป็น “เพศชาย”

อินดิเพนเดนท์และเซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์ รายงานว่า มีสตรีวัย 25 รายหนึ่งในประเทศจีน เธอแต่งงานแล้วและพยายามตั้งครรภ์มานานหลายปี แต่ไม่สำเร็จ วันหนึ่งเธอบาดเจ็บที่ข้อเท้า จึงไปรพ. แล้วต้องพบความจริงที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปทั้งชีวิต!

สตรีรายนี้ใช้ชีวิตในฐานะผู้หญิงมาตลอดทั้งชีวิต มีอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงภายนอก แต่เธอไม่เคยมีประจำเดือน

วันหนึ่งเธอเดินทางไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า แพทย์ได้พบความจริงที่เฉลยว่าทำไมเธอจึงไม่ตั้งครรภ์สักที แพทย์แจ้งว่าเธอมีโครโมโซมเพศชาย Y ภาวะที่พบได้ยากมากในมนุษย์ ซึ่งบางครั้งถูกระบุในฐานะ Intersex หรือภาวะเพศกำกวม

อินเทอร์เซ็กส์ หมายถึงคนที่เกิดมามีความซับซ้อนของเพศทางกายภาพมากกว่าหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องมีอวัยวะเพศแบบหญิงหรือชายที่เห็นได้ชัดเจน แต่อาจเป็นโครโมโซมหรือสภาพร่างกายทางชีววิทยาที่บ่งบอกถึงความซับซ้อนของเพศทางกายภาพ

สตรีรายดังกล่าวเปิดเผยว่าเธอเป็น 46 XY disorder of sex development (DSD) บุคคลที่มีโครโมโซมเพศ XY แต่มีการพัฒนาลักษณะทางเพศชายน้อยผิดปกติ(undervirilized male) ตามรายงานของเซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์ แพทย์สงสัยว่าสภาวะทางพันธุกรรมที่หายากของเธอ อาจเป็นผลที่พ่อและแม่ของเธอมีเชื้อสายใกล้ชิดกัน

ผลเอกซเรย์พบว่ากระดูกของเธอไม่มีพัฒนาการผ่านอายุวัยรุ่น และจากการค้นพบดังกล่าวกระตุ้นให้ทางคณะแพทย์ทำการตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาเหตุผลอยู่เบื้องหลังกรณีที่เธอไม่ตั้งครรถ์เสียที แม้มีความพยายามต่างๆนานามานานหลายปี สุดท้ายก็พบเรื่องสุดช็อคเกี่ยวกับความซับซ้อนทางเพศของเธอ

เจ้าตัวเล่าว่าเธอเคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีประจำเดือน แต่พอโตเป็นสาวแล้วก็ไม่ใคร่สนใจเรื่องนี้อีกเลย เนื่องจากอายไม่กล้าถามคนอื่นๆ

ตง เฟิงฉิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคต่อมไร้ท่อ ระบุว่าผู้หญิงรายดังกล่าวไม่มีมดลูกหรือรังไข่ รวมถึงอวัยวะเพศชายหรืออัณฑะ ซึ่งคณะแพทย์เชื่อว่าอาจมีอยู่ตอนเธอลืมตาดูโลก แต่อาจเสื่อมสภาพและฝ่อลีบ

การค้นพบใหม่เกี่ยวกับร่างกายของเธอ บีบให้ผู้หญิงรายนี้ต้องพิจารณาอัตลักษณ์ทางเพศของตนเองใหม่ คณะแพทย์ระบุ

หู เส้าหัว แพทย์สุขภาพจิต บอกว่าเรื่องนี้เป็นมากกว่าประเด็นทางกายภาพ มีความจำเป็นที่เธอต้องได้ข้อสรุปเกี่ยวกับอัตลักษณ์ทางเพศของเธอ

“มันคงต้องใช้เวลานานในการสร้างบทบาททางสังคมใหม่ และสร้างครอบครัวใหม่ และมันจะเป็นกระบวนการที่อุตสาหะ ซึ่งการมีส่วนร่วมของนักจิตวิทยาเป็นสิ่งจำเป็น แต่จนถึงตอนนี้คนไข้ยังไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากเรา” แพทย์รายนี้กล่าว