เว็บไซต์ CNBC รายงานว่า นาโอซามา ราบี ประธานและผู้อำนวยการฝ่ายจัดการสำนักงานบริหารจัดการคลองสุเอซ ‘Suez Canal Authority’ เปิดเผยกับนักข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง Sada El Balad ว่า ทางสำนักงานอาจจะเรียกค่าเสียหายกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 30,000 ล้านบาทจากกรณีเรือบรรทุกคอนเทนเนอร์ เอฟเวอร์ กิฟเวน ขวางคลองสุเอซ นานนับสัปดาห์ จนทำให้มีเรือสินค้ากว่า 400 ลำติดชะงัก ไม่สามารถผ่านคลองสุเอซ ที่เชื่อมระหว่างทะเลแดงกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
นายราบี ประธานสำนักงาน Suez Canal Authority กล่าวว่า ตัวเลขเงินค่าเสียหายจำนวนนี้ คำนวณจากการที่สำนักงานบริหารจัดการคลองสุเอซสูญเสียรายได้ รวมทั้งค่าแรงทำงานของทีมกู้เรือราว 800 คนในการปลดปล่อยเรือยักษ์ เอฟเวอร์ กิฟเวน ที่มีขนาดระวางขับน้ำถึง 2.2 แสนตัน ให้กลับมาลอยน้ำได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ บริษัทเอเวอร์กรีน มารีน (Evergreen Marine Corp) ในไต้หวัน ได้แจ้งมาตลอดว่าทางบริษัทเอเวอร์กรีน มารีน จะไม่ขอรับผิดชอบต่อค่าเสียหายใดจากการล่าช้าในการขนส่งสินค้าจากการที่เรือเอฟเวอร์ กิฟเวน ประสบเหตุขวางคลองสุเอซ
ในขณะที่บริษัทโชอิ ไคเซน (Shoei Kisen) ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของเรือเอฟเวอร์ กิฟเวน ได้เคยกล่าวกับนักข่าวบลูมเบิร์กว่า จะหารือเรื่องค่าเสียหายกับสำนักงานบริหารจัดการคลองสุเอซ ของอียิปต์ และจะไม่ขอชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ในขณะนี้