โฆษกสำนักงานการเมืองของตอลิบานในวันอาทิตย์ (15 ส.ค.) ประกาศว่า สงครามในอัฟกานิสถานจบลงแล้ว และเรียกร้องขอมีความสัมพันธ์สันติภาพกับประชาคมนานาชาติ หลังสามารถบุกเข้าไปยังกรุงคาบูล จนประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ต้องหลบหนีออกนอกประเทศ

โมฮัมหมัด นาอีม โฆษกของตอลิบาน ให้สัมภาษณกับสถานีโทรทัศน์อัลจาซีเราะห์ ระบุว่าตอลิบานไม่ต้องการใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ขณะที่รูปแบบการปกครองและการจัดตั้งรัฐบาลจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้

นาอีม ยืนยันว่า ทางกลุ่มเคารพสิทธิของผู้หญิงและชนกลุ่มน้อยทั้งหลาย และสิทธิการแสดงออกภายใต้กฎหมายชารีอะฮ์ พร้อมบอกว่า ตอลิบานต้องการมีความสัมพันธ์สันติภาพและกระตือรือร้นที่จะพัฒนาช่องทางการสื่อสารต่างๆ กับต่างประเทศ จากช่องทางเดิมที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน

“เราเรียกร้องทุกประเทศและองค์กรต่างๆ นั่งคุยกับเราเพื่อคลี่คลายประเด็นต่างๆ” เขาให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์อัลจาซีเราะห์

พวกนักรบตอลิบานบุกเข้าสู่กรุงคาบูลในวันอาทิตย์ (15 ส.ค.) และประธานาธิบดีอัชราฟ กานี เดินทางออกจากอัฟกานิสถาน อ้างต้องการหลีกเลี่ยงเหตุนองเลือด ส่งผลให้พวกนักรบอิสลามิสต์ใกล้ควบคุมประเทศแห่งนี้โดยสมบูรณ์ หลังจากถูกสหรัฐฯ ยกพลบุกโค่นอำนาจเมื่อ 2 ทศวรรษก่อน

นาอีม ยืนยันว่า ไม่มีองค์กรทางการทูตใดหรือสำนักงานใดตกเป็นเป้าหมายในแนวทางของตอลิบาน และทางกลุ่มจะให้การคุ้มกันความปลอดภัยแก่พลเมืองและคณะผู้แทนทางการทูตทั้งหลาย

“การหลบหนีออกของประเทศของประธานาธิบดีกานี เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน และแม้กระทั่งพวกคนที่ใกล้ชิดกับเขา ก็ไม่เคยคาดคิด” นาอีม ระบุ “เราพร้อมเจรจากับบุคคลสำคัญของอัฟกันทุกคน และรับประกันว่าจะให้การคุ้มกันที่จำเป็นแก่พวกเขา” นาอีมให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์อัลจาซีเราะห์

เขาบอกว่า ตอลิบานกำลังเห็นความพยายามและการเสียสละยาวนานกว่า 20 ปีของพวกเขาผลิดอกออกผล และจะใช้นโยบายไม่แทรกแซงกิจการของประเทศอื่นๆ แลกกับการที่ประเทศอื่นไม่แทรกแซงกิจการภายในของอัฟกานิสถาน

“เราบรรลุเป้าหมายที่เราแสวงหา ซึ่งก็คือเสรีภาพของประเทศของเราและความเป็นอิสระของประชาชนของเรา” เขากล่าว “เราจะไม่ยอมให้ใครใช้ประเทศของเราเล็งเป้าหมายไปที่คนอื่น และเราไม่ต้องการทำร้ายคนอื่นๆ เราคิดว่ากองกำลังต่างชาติคงจะไม่ทำผิดพลาดซ้ำรอยความล้มเหลวที่พวกเขาประสบในอัฟกานิสถานอีกครั้ง”