ามไส้! กรณีศิลปินนักวาดรูปอวดอุตรินำกระดูกศิลปินแห่งชาติ “ถวัลย์ ดัชนี” ขึ้นคอราววัตถุมงคล อ้างว่ามีพลังในการสร้างศิลปะ โดยกระดูกดังกล่าว ครอบครัวไม่เคยอนุญาต และถูก “หยิบไป” อย่างไม่ได้รับอนุญาตจากลูกศิษย์อ.ถวัลย์ที่ชื่อ “มินนา” ที่ยังคงใช้เครดิตการช่วยงานศิลปะเป็นชื่อหากินในนาม “มินนา มีดม้างฟ้า” จนถึงปัจจุบัน ทายาทไม่พอใจ ขีดเส้นตายส่งคืนกระดูกพ่อ ส่วนนักวาดรูปนาม “สุขุม มีพันแสน” เขาเป็นใครกันแน่ ตามไปรู้จักเขากัน

คนไทยจำนวนมากมายรู้จักถวัลย์ ดัชนี ศิลปินเอกแห่งสยามประเทศ ผู้ที่แม้กายจะลับล่วงไปแล้ว หากชื่อของท่านก็ยังคงจำหลักอยู่ในทุกรอยสีและฝีแปรงของทุกภาพที่ท่านทิ้งไว้ให้โลกใบนี้ แต่คนจำนวนไม่น้อย อาจเพิ่งเคยได้ยินชื่อ “สุขุม มีพันแสน” ผู้ซึ่งเพิ่งจะโดยสปอตไลท์ส่องหน้าหลังรายการดัง “โหนกระแส” นำเขามาออกในประเด็น ผู้นำ “กระดูกข้อนิ้ว” ของอ.ถวัลย์และศิลปินท่านอื่นมา “ขึ้นคอ” อ้างว่าส่งผลให้มีพลังในเวลาวาดภาพสร้างงานศิลปะ ในขณะที่ทายาทอ.ถวัลย์บอก นี่คือการสร้างความหม่นหมองให้ศิลปะ และไม่เคยอนุญาตให้ใครเอากระดูกพ่อไปทั้งนั้น

เรื่องของเรื่อง เกิดจากเมื่อ รายการดังในกระแสอย่าง “โหนกระแส” ที่มีพิธีกรเบอร์ต้นของเมืองไทย “หนุ่ม” – กรรชัย กำเนินพลอย ได้เชิญ อ.สุขุม มีพันแสน บุคคลที่ระบุว่าตนเองเป็น “ศิลปินวาดภาพ” มาออกรายการ ในประเด็นหลักเรื่องการนำ “กระดูกข้อนิ้ว” ของศิลปินชื่อดังที่ล่วงลับไปแล้ว เช่น อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) และ อ.สุวัฒน์ แสนขัติยรัตน์ ศิลปินครูพุทธศิลป์ มาห้อยคอเวลาที่วาดภาพ เพราะเชื่อว่าทำให้ตนเองและภาพมีพลัง
.
หลังรายการออนแอร์ออกไป ปรากฏว่า ม่องต้อย – นายดอยธิเบศร์ ดัชนี บุตรชาย อ.ถวัลย์ ออกมาโพสต์ยืนยันว่าลอยอังคารกระดูกคุณพ่อไปแล้ว และกระดูกที่ถูกนำมาออกรายงานและอ้างว่าเป็นกระดูกข้อนิ้วของบิดาของตนนั้น ไม่ว่ากระดูกนั้นจะจริงหรือไม่ แต่ตนซึ่งเป็นทายาทไม่อนุญาต และระบุชัดเจนว่า การกระทำดังกล่าว เป็นการ “ทำลายวงการศิลปะ” และตนต้องออกมาปกป้องพ่อ
.
ความเห็นของบุตรชายคนเดียวของอ.ถวัลย์นั่น สอดคล้องกับความเห็นของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชื่อดัง ที่ได้ออกมาสนับสนุน นายดอยธิเบศร์ ดัชนี ว่าสิ่งที่กระทำเป็นการทำถูกต้องแล้วที่ออกมาปกป้องพ่อ พร้อมฝากข้อความยาวเหยียดไปถึง หนุ่ม กรรชัย พิธีกรรายการโหนกระแส ตำหนิและตักเตือนเรื่องการเชิญแขกรับเชิญมาออกรายการ ไม่ควรเอามันอย่างเดียว ให้คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาด้วย


.
อ.เฉลิมชัยระบุว่า…
.
ถูกแล้วน้องรักต้องปกป้องพ่อ “แม่งเอาดังแบบควาย ๆ” ฝากไปถึงไอ้น้องหนุ่มโหนกระแสหน่อย เพราะความไม่รู้เรื่อง ไม่ศึกษาและเข้าใจงานศิลปะที่ทรงคุณค่าจริง ๆ ไม่รู้จักระดับของศิลปินที่เป็นการยอมรับในแวดวง แค่เอาแปลกอะ มันจึงทำให้ประชาชนที่ไม่เข้าใจศิลปะอยู่แล้ว ยิ่งเข้าใจผิดต่องานศิลปะและศิลปินผู้สร้างสรรค์งานมากยิ่งขึ้น มีศิลปินระดับศิลปินแห่งชาติ ศิลปินศาสตราจารย์เกียรติคุณ และศิลปินชั้นเยี่ยมโทร. หาพี่หลายคน บอกว่า.. ไอ้เหลิม มึงเป็นเสาหลักของวงการ ออกไปจัดการที เพราะมันเสียหายต่อภาพรวมของวงการเรา จึงขอฝากตรงนี้ถึงไอ้น้องหนุ่มน้องรักว่า..
.
“ตั้งแต่นี้ หนุ่มต้องระวังในการจัดใครมาออกรายการด้วยนะครับ หากหนุ่มเอาแค่มัน เอาแปลก แล้วไม่กระทบต่ออาชีพของวงการใคร ลุยสนุกไปไร้สาระได้เลยไอ้น้อง พี่แก่แล้วไม่อยากมาออกทีวีกับหนุ่มเพื่อชี้แจง พูดแค่นี้คงพอแล้ว แต่ถ้าหนุ่มอยากจะเอาศิลปินดังจริง งานดีจริง พี่แนะนำหนุ่มให้เชิญท่านศิลปินชั้นเยี่ยม ศาสตราจารย์ ถาวร โกอุดมวิทย์ ไปออกรายการสิ เขาเป็นรุ่นน้องพี่ ท่านพร้อมและยินดีที่จะมาออกรายการ คิดถึงนะหนุ่ม ขอให้เจริญ ๆ รวย ๆ คนรักยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะ”


.
ส่วนนายดอยธิเบศร์ ได้ระบุเรื่องราวอันน่าสะเทือนใจของ อ.สุวัฒน์ แสนขัติยรัตน์ ที่เป็นหนึ่งในรายชื่อที่อ.สุขุมได้โชว์ว่า มีกระดูกข้อนิ้วอยู่ด้วย ว่า ตัวของนายดอยธิเบศร์เอง ได้เจออ.สุวัฒน์ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2563 เนื่องจาก อ.สุวัฒน์ มากราบอัฐิ อ.ถวัลย์ ซึ่งตอนนั้น อ.สุวัฒน์ ก็ผ่ายผอม ไม่สบายไปมากแล้ว
.
“พี่สุวัฒน์เคารพนับถือพ่อผมมาก ไปมาหาสู่กันตั้งแต่ผมยังเด็ก ๆ เสียใจมากที่พี่จากพวกเราไปก่อนเวลาอันควร และที่น่าเศร้าที่สุดก็คือ มีคนเอากระดูกพี่สุวัฒน์มาหากิน” นายดอยธิเบศร์ระบุ

อย่างไรก็ตาม หลังเรื่องราวกลายเป็นกระแสตีกลับเชิงลบ นายสุขุม ได้รีบออกมาให้ข่าวว่า ส่วนตัวเคารพรักอาจารย์ถวัลย์ในฐานะศิลปินรุ่นพี่เรียนเพาะช่างด้วยกันมา ตนเองยอมรับว่านำเถ้ากระดูกของอาจารย์ถวัลย์มาจริง โดยได้รับมาจากผู้ที่เคยทำงานร่วมกับทีมงานของอาจารย์ถวัลย์ชื่อว่า “มินนา” ตนเองก็เต็มใจรับไว้ เพราะให้ความเคารพอาจารย์ถวัลย์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงนำมาบูชาเก็บ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะ มีการเซ็นเอกสารรับมอบวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 แต่หลังจากเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ มินนาก็กลับมาเอาเถ้ากระดูกแล้วนำไปคืนให้กับคุณดอยธิเบศร์ ดัชนี บุตรชายของอาจารย์ถวัลย์ทันที ตนเองไม่สบายใจเป็นอย่างมากที่ถูกโจมตีว่านำเถ้ากระดูกไปแอบอ้างเพื่องานศิลปะ จึงอยากขอโทษครอบครัวและทายาทของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี มา ณ โอกาสนี้ด้วย
.
สำหรับ “มินนา” ผู้ที่อ.สุขุมกล่าวอ้างว่า เป็นผู้ที่เคยทำงานร่วมทีมกับอ.ถวัลย์ ตามเอกสารที่ลงชื่อรับกระดูกเอาไว้ ระบุว่าคือ “มินนา ปัญญาเลิศ” ผู้ซึ่งเป็นลูกศิษย์คนสนิทของอ.ถวัลย์ ที่เจ้าตัวมักจะพะยี่ห้อตามชื่อของตัวเองว่า มินนา (ศิลปินมีดม้างฟ้า) โดยผลงานมีดม้างฟ้า เป็นผลงานของอ.ถวัลย์ ดัชนี ที่นายมินนา น่าจะมีส่วนร่วมช่วยงานชิ้นดังกล่าว และนายมินนา ยังคงใช้เครดิตจากการร่วมงานกับอ.ถวัลย์ เป็นเครดิตอยู่จนปัจจุบัน โดยความเกี่ยวข้องของการนำกระดูกอ.ถวัลย์ไปให้นายสุขุมนั้น นายดอยธิเบศร์รู้สึกคาใจ จึงได้โทรศัพท์ ไม่ถามนายมินนา ในฐานะ “ลูกศิษย์ของพ่อที่ไม่ได้ติดต่อมา 7 ปี นับตั้งแต่อ.ถวัลย์จากไป” ซึ่งนายมินนาก็ยอมรับสารภาพว่า เป็นคนหยิบไปจริง ๆ และเป็นคนนำไปให้เขาจริง

นายดอยธิเบศร์ระบุว่าเรื่องนี้ทำให้ตนและครอบครัวรับไม่ได้ที่เป็นกระดูกพ่อจริง ๆ จึงขีดเส้นตายให้นายมินนานำกระดูกของ อ.ถวัลย์ กลับคืนมาภายใน 3 วัน ซึ่งได้นำกลับมาให้เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา

และสำหรับบุคคลที่หลายคนอยากรู้จักที่สุดในข่าวนี้ CocoNews จะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักบุคคลในข่าว “สุขุม มีพันแสน” ว่า ชายผู้นำกระดูกข้อนิ้วศิลปินระดับชาติไปขึ้นคอ…เขาเป็นใครกันแน่
.
นายสุขุม มีพันแสน จบการศึกษาจากเพาะช่าง ต่อมาโลดแล่นในวงการธุรกิจ เป็นนักธุรกิจ เจ้าของร้านอาหารและรีสอร์ตขนาดใหญ่ที่เกาะลันตา ในแวดวงธุรกิจประเภทนี้ เขาเป็นที่รู้จักมากกว่าในแวดวงศิลปะ นอกจากนี้ เขา เป็นนายกสมาคมถ่ายภาพกรุงเทพ เป็นนักวาดภาพแนวแอ๊บสแตรค ชอบสะสมงานศิลปะ และมีข่าวในแวดวงสังคมในแง่ศิลปะในลักษณะ มอบงานศิลปะให้แก่สถาบันการศึกษาอยู่บ้าง ล่าสุดเป็นข่าวในฐานะร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ ร่วมกันจัด “Casting & Beauty Pageant” เพื่อเฟ้นหาผู้ที่จะมาเป็นพรีเซนเตอร์ต้อนรับแขก VIP และผู้ที่จะสมัครเข้าประกวด Mister Iconic Thailand 2021