ถือเป็น “ฟ้าทองผ่องอำไพ” ของอเมริกา และน่าจะเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในรอบ 4 ปีที่อเมริกันชนเฝ้ารอ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีคนใหม่ของพวกเขา ปฏิบัติงานวันแรกเมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) ด้วยการลงนามคำสั่งสำคัญ ที่บ่งบอกวิสัยทัศน์ของผู้นำคนใหม่นี่ได้เป็นอย่างดี นี่อาจจะเป็น “กัปตันอเมริกา” ตัวจริงก็เป็นได้ 4 ปีนับจากนี้ จะเป็นเครื่องพิสูจน์

ในวันแรกของการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โจ ไบเดน ได้ลงนามในคำสั่ง 17 คำสั่ง ซึ่ง 9 คำสั่งในนั้นยกเลิกนโยบายเดิมของทรัมป์! เขาประกาศต่อหน้าสื่อมวลชน ณ ห้องรูปไข่ (Oval Office) ที่ทำเนียบขาว อย่างชัดเจนว่า “ไม่มีเวลาให้เสียอีกต่อไปแล้ว วันนี้เป็นวันแรกในตำแหน่ง ไม่มีวันไหนเหมาะกับการเริ่มงานอีกแล้ว ไม่ควรเสียเวลาเปล่าประโยชน์ ควรทำงานทันที และอยากเริ่มงานด้วยการทำตามสัญญาที่หาเสียงไว้ ”

ไบเดนกล่าวอีกว่า “คำสั่งบริหารบางอย่างที่ผมจะเซ็นในวันนี้จะช่วยเปลี่ยนแนวโน้มของวิกฤตโควิด-19 เราจะต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างชนิดที่ไม่เคยทำมาก่อน รวมถึงส่งเสริมความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ และสนับสนุนชุมชนอื่นๆ ที่ยังขาดโอกาส… ทั้งหมดนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น” ไบเดน กล่าว

ด้านทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ไบเดนได้เซ็นคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐรวมถึงประชาชนทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในอาคารสถานที่ของรัฐบาล, เปิดสำนักงานประสานงานตอบสนองไวรัสโคโรนาประจำทำเนียบขาว และสั่งยุติกระบวนการถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ ทรัมป์ ได้ดำเนินการเอาไว้ ยังลงนามในเอกสารเริ่มกระบวนการกลับเข้าสู่ความตกลงปารีส (Paris Agreement) และออกคำสั่งเพื่อจัดการปัญหาสภาพอากาศอย่างครอบคลุม หนึ่งในนั้นคือการยกเลิกคำสั่งอนุญาตโครงการท่อส่งน้ำมัน คีย์สโตน เอ็กซ์แอล

เจน พีซากี (Jen Psaki) เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของไบเดน แถลงว่า แผนในวันแรกนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการใช้อำนาจบริหาร (executive actions) ที่ ไบเดน เตรียมจะลงมือทำทันทีหลังเข้ารับตำแหน่ง

สรุปคำสั่งที่ไบเดนยกเลิกนโยบายของทรัมป์

  • หยุดแผนการถอนตัวจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ Trump เริ่มไว้
  • กลับเข้าร่วมสนธิสัญญาด้านสภาพอากาศ Paris Climate Accord ที่รัฐบาล Trump ถอนตัวออกมา
  • กำหนดให้ประชาชนต้องใส่หน้ากากในพื้นที่ของรัฐบาลกลาง เป็นเวลา 100 วันเพื่อลดการระบาดของไวรัส
  • หยุดการก่อสร้างกำแพงพรมแดนเม็กซิโกของทรัมป์ชั่วคราว
  • ยุติโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำมัน Keystone XL
  • ยกเลิกการห้ามชาวมุสลิมจาก 7 ชาติเข้าประเทศ และระงับการเนรเทศผู้อพยพชาวไลบีเรียที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ
  • มีคำสั่งให้ทบทวนปรับเปลี่ยนมาตรฐานการปล่อยคาร์บอนของรัฐบาลชุดที่แล้ว คำสั่งใหม่ของประธานาธิบดีคนใหม่ ที่ถือเป็นวาระเร่งด่วน
  • จัดการกับปัญหาความไม่เท่าเทียมจากเหตุกีดกันแบ่งแยกเชื้อชาติอย่างถอนรากถอนโคน
  • ฟื้นฟูความเชื่อมั่นในหมู่ชาติพันธมิตรเก่าแก่ของสหรัฐฯ ให้กลับคืนมาอีกครั้ง
  • แต่งตั้งผู้ประสานงานด้านการรับมือโรคโควิด-19 โดยจะทำหน้าที่ขึ้นตรงต่อประธานาธิบดีไบเดนโดยตรง บทบาทหลักคือการดูแลเรื่องการแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 และอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับรับมือการระบาดในสหรัฐฯ
  • ให้มีการนับจำนวนประชากรที่ไม่ใช่พลเมืองลงในสำมะโนประชากร โดยเชื่อว่าจะทำให้ฐานข้อมูลประชากรในสหรัฐฯ เป็นไปตามข้อเท็จจริงมากขึ้น และจะต้องนำจำนวนประชากรที่ไม่มีสถานะเป็นพลเมืองมาคำนวณเพื่อหาสัดส่วนจำนวนผู้แทนในสภา
  • ออกคำสั่งป้องกันการแบ่งแยกทางเพศต่อเพศสภาพต่างในสถานที่ทำงาน
  • มีคำสั่งให้ประสานงานแจกจ่ายอุปกรณ์ป้องกันเชื้อกับชุดตรวจหาเชื้อให้ทั่วถึง เร่งฉีดวัคซีนแก่ประชากร 100 ล้านคน โดยให้ได้รับวัคซีนโดสแรกเป็นอย่างน้อย ภายใน 100 วันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
  • และประการสำคัญที่สุด ที่เป็นที่ชื่นชมไปทั่วโลก ยืดเวลาการจ่ายหนี้การศึกษาไปอีกจนถึง 30 กันยายน 2021 ข้อนี้ หลายฝ่ายให้ความเห็นตรงกันว่า ไบเดนให้ความสำคัญต่อการศึกษา และเปิดโอกาสทางการศึกษาให้แก่ทรัพยากรมนุษย์ อันเป็น “สมบัติ” ที่สำคัญที่สุดของชาติ

“ในช่วงหลายวันและหลายสัปดาห์ข้างหน้า เราจะประกาศคำสั่งจากคณะบริหารเพิ่มเติมเพื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ และทำตามคำมั่นสัญญาที่ประธานาธิบดีให้ไว้ต่อชาวอเมริกัน” พีซากี ระบุ

สำหรับแผนการขั้นต่อๆ ไปของ ไบเดน ยังรวมถึงการเพิกถอนคำสั่งห้ามคนข้ามเพศเข้ารับราชการทหาร และยกเลิกนโยบายห้ามสหรัฐฯ ให้ทุนสนับสนุนโครงการในต่างแดนที่เชื่อมโยงกับการทำแท้ง

ในด้านเศรษฐกิจ ไบเดนได้ขอให้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ขยายเวลาผ่อนผันการไล่ที่อยู่ (moratorium on evictions) ไปจนถึงปลายเดือน มี.ค. และให้กระทรวงการศึกษาพักชำระหนี้แก่นักศึกษาไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. นี้

อเมริกา 2021 แตกต่างจาก 4 ปีที่แล้วราวพลิกฝ่ามือ ความแตกต่างระหว่างทรัมป์กับไบเดนชัดเจน ถ้าจะหาความเหมือนเพียงสักเล็กน้อย…เท่าที่ค้นหา นอกจากจะเป็น “ผู้ชาย” เหมือนกันแล้ว ดูเหมือนว่า อย่างเดียวที่ โจ ไบเดน มีรสนิยมตรงกับโดนัลด์ ทรัมป์ นั่นคือ “โต๊ะทำงาน” ซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติของ White House เจ้าหน้าที่ทำเนียบประธานาธิบดีจะนำแบบโต๊ะทำงานเสนอให้ประธานาธิบดีที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเลือก 6 แบบ ซึ่งประธานาธิบดีไบเดน เลือกแบบทีเรียกว่า Resolute ซึ่งเป็นโต๊ะแบบเดียวกับที่ประธานาธิบดีทรัมป์ และประธานาธิบดีบารัค โอบามา ใช้เป็นโต๊ะทำงาน…นั่นแหละ ความเหมือนเดียวของทั้งคู่ นอกจากที่จะเป็น “ผู้ชาย” เหมือนกันน่ะนะ!