มูลค่าตลาดคริปโตหายวับ 130,000 ล้านดอลลาร์ในเวลาแค่ 24 ชั่วโมง หลังจากทั้งบิตคอยน์และอีเธอร์ยังถูกเทขายไม่หยุดจนราคาหลุดต่ำกว่า 50% ของสถิติสูงสุดตลอดกาลทั้งคู่ แถมตกต่ำสุดขีดนับจากเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
.
จากข้อมูลของคอยน์ เมตริกส์ ราคาบิตคอยน์เมื่อวันจันทร์ (24) หล่นลงอีก 4% อยู่ที่ 33,755.57 ดอลลาร์ ต่ำสุดนับจากเดือนกรกฎาคม 2021 และต่ำกว่าราคาสูงสุดตลอดกาลที่ทำไว้ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วราว 50%
.
ส่วนอีเธอเรียมร่วงลง 7% อยู่ที่ 2,239.08 ดอลลาร์ ต่ำสุดนับจากปลายเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน และต่ำกว่าสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ทำไว้ในเดือนพฤศจิกายนประมาณ 51%
.
สถานการณ์นี้ส่งผลให้มูลค่าตลาดคริปโตหายวับถึงราว 130,000 ล้านดอลลาร์ในเวลาแค่ 24 ชั่วโมง
.
ความเคลื่อนไหวในตลาดคริปโตช่วงนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงอื่นๆ เช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากนักลงทุนกำลังเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับไปใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นและขึ้นดอกเบี้ย
.
นักลงทุนที่ลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลและสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ เริ่มกระสับกระส่ายนับจากที่เฟดส่งสัญญาณว่า จะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วและแรงกว่าที่คาดการณ์กันไว้ เนื่องจากมองว่า นโยบายแข็งกร้าวของเฟดจะยิ่งส่งผลร้ายต่อตลาดคริปโต
.
นอกจากนั้นนักลงทุนยังต้องต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น ทว่า แม้เหล่ากองเชียร์บิตคอยน์ย้ำมาตลอดว่า เงินดิจิตอลช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ แต่ทฤษฎีนี้ไม่ได้ช่วยดันราคาบิตคอยน์กระเตื้องขึ้นมาได้เลย
.
ขณะเดียวกัน รัฐบาลหลายประเทศกำลังเดินหน้าจัดการคริปโต โดยเมื่อวันพฤหัสฯ ที่แล้ว (20) รอยเตอร์รายงานว่า ธนาคารกลางรัสเซียเสนอแบนการใช้และการขุดคริปโต
.
ทั้งนี้ รัสเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่ทำเหมืองคริปโตใหญ่ที่สุดในโลก แต่แบงก์ชาติของประเทศนี้กลับบอกว่า สกุลเงินดิจิตอลเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ
.
ข้อเสนอของแบงก์ชาติรัสเซียเกิดขึ้นหลังจากจีนเปิดปฏิบัติการกวาดล้างคริปโตเต็มพิกัด ทั้งห้ามเทรดและขุดเหรียญเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้
.
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังกลัวว่า รัสเซียอาจโจมตียูเครน หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ (23) กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ สั่งให้สมาชิกครอบครัวนักการทูตเดินทางออกจากยูเครน และถัดมาอีกวัน สถานทูตอังกฤษในกรุงเคียฟประกาศนโยบายเดียวกัน สะท้อนความกังวลของตะวันตกว่า รัสเซียอาจบุกยูเครนได้ทุกเมื่อ
.
ความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ยูเครนยังฉุดหุ้นเทกระจาดทั่วโลก แต่ส่งให้ราคาน้ำมันและดอลลาร์ไต่ขึ้น
.
มาร์ก อิเลโนวิตซ์ ประธานฮอไรซัน ชี้ว่า บิตคอยน์จะเผชิญมรสุมต่อไปจนกว่าสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคจะมีการเปลี่ยนแปลง พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าธนาคารกลางขึ้นดอกเบี้ย สินทรัพย์เสี่ยงอย่างบิตคอยน์จะถูกเทขายมากขึ้น
.
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าจะมีแต่ความเห็นแง่ลบเท่านั้น ตัวอย่างเช่น โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจชื่อดังแห่งวอลล์สตรีท ที่เชื่อมั่นว่า ราคาบิตคอยน์อาจทะลุ 100,000 ดอลลาร์ภายใน 5 ปี โดยในรายงานที่เผยแพร่เมื่อต้นเดือน นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า มีแนวโน้มที่ราคาบิตคอยน์จะกลับมาแข็งแกร่งเนื่องจากเงินดิจิตอลที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกสกุลนี้จะแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจากทองคำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ