โซเชียลแห่แชร์ประสบการณ์ “ตายแล้วฟื้น” ของ “วีระ แข็งกสิการ” ผู้ตรวจศธ.-อดีตรองปลัด-โฆษก กระทรวงศึกษาฯ หัวใจวาย “ตาย” คาสนามฟุตบอล แต่ปั๊ม CPR พร้อมใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจAED จนคืนชีพ เผยเรื่องแปลก อายุเท่า “ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” ที่เสียชีวิตเพราะวูบหัวใจวาย แถมลูกสาวยังชื่อเดียวกัน
.
นายวีระ แข็งกสิการ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) อดีตรองปลัด ศธ. และโฆษก ศธ. โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก วิระ แข็งกสิการ เล่าประสบการณ์ที่หัวใจหยุดเต้น ระหว่างการเล่นฟุตบอล แต่ฟื้นขึ้นมาได้แบบปาฏิหาริย์ ด้วยการช่วยชีวิตแบบปั๊มหัวใจ CPR และเครื่อง AED โดยระบุว่า…
.
เมื่อมัจจุราชให้โอกาส ตายไปนานมาก ปั๊มหัวใจไม่ฟื้น แต่เทวดาฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือบุญทำให้ฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์ ข่าวการตายของผมแพร่สะพัดไปเร็วมาก ขอบคุณทุกความห่วงใย ปกติชีวิตของผมจะเดินสายกลาง กินพอดี อยู่พอดี ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ มีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายสายกลาง มาโดยตลอด แต่มีสิ่งหนึ่งที่เป็นการกระทำที่ไม่พอดี เป็นวิถีสุดโต่ง ทำมากเกินไป นั่นก็คือการแข่งฟุตบอล
.
ผมเล่นฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ เล่นฟุตบอลโดยไม่สนใจอายุ และสังขาร เล่นฟุตบอลจนหัวข้อเข่าพัง เดินผิดปกติ เพื่อนฝูง เมียและลูก ๆ เตือนอย่างไรก็ไม่ฟัง จนสุดท้าย ก็ถึงวาระสุดท้ายของชีวิตที่เกิดจากการเล่นฟุตบอลจนได้
.
ผมแข่งขันฟุตบอล จนหัวใจวาย หัวใจหยุดเต้น และตายกลางสนามฟุตบอล ผมวิ่งเบา ๆ รอบสนามเพื่อรอเล่นควอเตอร์ 4 ขณะที่กำลังเล่นถึงปลายควอเตอร์ 3 ได้ล้มฟุบลงไปและไม่รู้สึกตัว เจ้าหน้าที่สนามช่วยกันปั๊มหัวใจ เรียกรถ 1669 ส่งโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ศูนย์ราชการ อาการปลอดภัย พูดคุยได้ อยู่ห้อง ICU คาดว่าจะต้องเข้ารับการรักษา ตรวจเช็คร่างกายโดยละเอียด อย่างน้อย 3 วัน
.
ผมไม่เห็นตอนฟุบ ปลายควอเตอร์ 3 ผมวิ่งเบา ๆ รอบสนาม จนเกือบครบรอบ มีคนจำได้ว่าผมขอเปลี่ยนตัวกำลังเดินออก แล้วนั่งลง ยังไม่พ้นสนามก็นอนฟุบไปเลย มีคนเห็นผมนอนอยู่ เพราะเสื้อไม่เหมือนใคร มีเจ้าหน้าที่มาช่วยปั๊มหัวใจ 3 คน ใช้เวลาปั๊มประมาณ 20 นาที ต้องบอกว่าโชคดีมาก ๆ ที่ได้เครื่อง AED จากรถฉุกเฉินของ ตชด. มาช่วยให้ฟื้นเร็วขึ้น
.
นั่นคือเหตุการณ์การตายของผม หัวใจผมหยุดเต้น หมดสติ หยุดหายใจไปนานแสนนาน คุณหมอ พยาบาล มาบอกภายหลังว่า โชคดีมาก ตัวเขียว หน้าดำคล้ำ อาการแบบนี้ โอกาสจะรอดน้อยมาก ๆ นี่คุณโชคดีเหลือเกิน ปาฏิหาริย์มาก
.
ย้อนมาดูข่าว นักการเมืองดังแถวสมุทรปราการที่เสียชีวิต ท่านเสียชีวิตในวัย 55 ปี หลังเกิดภาวะโรคหัวใจและ ฮีตสโตรก ท่านเกิดปี 2511 ปีเดียวกับผม ทั้งยังอายุ 55 ปี เท่ากับผมอีกด้วย ตัวผมตายไปแล้วจากการที่เส้นเลือดในหัวใจอุดตัน จำนวน 3 เส้น ตายขณะเล่นฟุตบอลกลางสนาม ตายเพราะระบบโรคหัวใจเช่นเดียวกัน ที่ผ่านมาผมไม่ได้เป็นโรคหัวใจ เนื่องจากผมตรวจสุขภาพตลอดทุกปี ตรวจทั้งปกติ และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก็ไม่พบอาการผิดปกติ ผมจึงมั่นใจในชีวิต ลงเล่นฟุตบอลด้วยความคึกคะนอง
.
ไม่กี่วันก่อนผมไปแข่งฟุตบอลมา 1 แมตช์ วันเกิดเหตุ เล่นทีม วิไอพี วปอ แข่งกับทีม สโมสรตำรวจ ผมยิง ไป 2 ประตู แต่ก็มาฟุบลงเสียชีวิต หัวใจหยุดเต้น กลางสนามฟุตบอลที่ตัวเองลุ่มหลง ที่ตัวเองรักนักรักหนา ผมหัวใจหยุดเต้น ผมตายไปแล้ว ผมเสียชีวิตอย่างสมบูรณ์ แต่มัจจุราช หรือมารยังให้โอกาสเลยฟื้นมาได้
.
ปาฏิหาริย์มีจริง บุญกุศลมีจริง ดวงชะตาชีวิตผมปีนี้ดวงตกสุด ๆ พระอาจารย์ที่เคารพนับถือแนะนำให้ผมบวช สัก 3 เดือน เพื่อสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตาแล้วชีวิตจะดีขึ้น
ผมจะบวชได้อย่างไร ผมเป็นรองปลัดกระทรวง ภารกิจเยอะแยะวุ่นวายไปหมด อย่างไรก็คงบวชไม่ได้
.
ปาฎิหาริย์ ที่ 1 นับเป็นความโชคดีที่สุด ที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กรุณาย้ายให้ผมมาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ผมจึงมีเวลาว่างเพื่อบวชได้ ตามที่พระอาจารย์ทักมา
.
ปาฏิหาริย์ที่ 2 วันนี้ ผมมีกำหนดการแข่งบอล 2 สนาม คือสนาม ทีโอที แจ้งวัฒนะ กับสนามบุญญจินดา ถ้าผมเลือกไปสนามแจ้งวัฒนะ คงเสียชีวิตแน่นอน เพราะคงไม่มีใครช่วยได้ โชคดีของผมที่เลือกมาแข่งสนามบุญญจินดา มีพยาบาลมาดูแลเจ้านายอาวุโสของเขา พยาบาลคนนี้ยศร้อยตำรวจเอกเลยทีเดียว พยาบาลที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี มาช่วยปั๊มผมถึงสามคน
.
ปาฏิหาริย์ ที่ 3 ปั๊มหัวใจอย่างไรก็ไม่ขึ้น ขึ้นมาแล้วก็วูบไปอีก มีรถตำรวจตะเวนชายแดนทีมีอุปกรณ์ช่วยชีวิต AED เครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ ติดรถมาด้วย ดวงดีจริง ๆ อุปกรณ์นี้จึงมาช่วยให้รอดตาย เพราะที่สนามก็มี AED เช่นเดียวกันแต่อยู่ในห้องไม่มีลูกกุญแจไขเข้าไปเอาได้ โชคดีที่ในรถ ตชด. มี AED ติดรถมาด้วย
.
พยาบาลผู้ช่วยชีวิตเล่าว่า ผมถูกปั๊มหัวใจอยู่นานมาก หลายรอบ แต่ก็ไม่มีท่าทีจะฟื้นคืนสติ พยาบาลน่าจะเริ่มถอดใจ หน้าผมเริ่มดำ เขียว ตัวเริ่มคล้ำดำ เหมือนคนเสียชีวิต แต่ชีวิตถือว่ามีบุญมหาศาล ที่มีคนวิ่งไปเอา AED จากรถตำรวจตะเวนชายแดน ที่ติดรถมาด้วย มาช็อต กระตุ้น จนฟื้นคืนสติมาได้ นำผมขึ้นรถ 1669 เพื่อส่งตัวไปโรงพยาบาล ผมรู้สึกตัวบนรถ ลืมตาขึ้นมา พยายามคิดนึกว่ามาอยู่บนรถนี้ได้อย่างไร แต่ด้วยความที่ไม่หายใจไปยาวนานมาก จึงเรียบเรียงเรื่องราวไม่ได้ นอนงงอยู่บนรถคันนั้น
.
ปาฏิหาริย์ ที่ 4 มาถึงโรงพยาบาล ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งความเชื่อเดิมที่นี่คือศูนย์รักษามะเร็งที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย เราไม่ทราบว่าที่นี่ ได้เปิดศูนย์โรคหัวใจ ที่มีอุปกรณ์สมบูรณ์ที่สุด คุณหมอได้นำผมเข้าห้องฉีดสี พบว่าเส้นเลือดหัวใจตีบ 3 เส้น แต่ด้วยความพยายามที่จะส่งเลือดไปเลี้ยงร่างกาย เส้นเลือดก็พยายามแยก เป็นเส้นฝอย เส้นแขนงเยอะแยะไปหมด หมอกรุณาช่วยชีวิตโดยการทำบอลลูนเร่งด่วน และใส่ขดลวดให้ 1 เส้นก่อน ซึ่งใช้เวลา หลายชั่วโมง ผมรู้สึกตัวบ้าง ไม่รู้สึกตัวบ้าง รู้แต่ว่าทุกคนแวดล้อมเราดูมีสีหน้าตกใจสุดขีด ตกใจว่าผมเสียชีวิตแล้ว
.
พยาบาลสาวสองคนที่มาเยี่ยมวันนี้ เล่าให้ผมฟังว่า ท่านเสียชีวิตไปแล้วคะ ตายแล้วจริง ๆ แต่ผมเชื่อมั่นว่า ด้วยคุณความดีที่ผมปฏิบัติมา ด้วยอำนาจแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณที่ปฎิบัติมาสามเดือนที่ผ่านมา ชะตาชีวิตจึงเกิดปาฏิหาริย์ต่าง ๆ ขึ้น มัจจุราชให้โอกาสมีชีวิตอยู่ ให้โอกาสคน ๆ หนึ่งใช้ชีวิตต่อไป
.