อาชีพ “พยาบาล” ถือเป็นบุคลากรการแพทย์ที่สำคัญยิ่งยวด ในการดูแลผู้ป่วย เป็นอาชีพที่ต้องอุทิศตน เสียสละ คำนึงถึงผู้ป่วย จนบางครั้งจำต้องละเลยตนเองและครอบครัว เป็นอาชีพที่ต้องอดทนและเปี่ยมไปด้วยความกรุณาต่อเพื่อนมนุษย์เป็นที่ยิ่ง และถ้าหากพยาบาลคนนั้น เป็นผู้บกพร่องทางการเคลื่อนไหว ใช้ชีวิตบทวีลแชร์ (รถเข็น) จะยิ่งต้องมุมานะถึงระดับสูงเพียงใด ลองคิดดู

“เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ยิวนั่งรถเก๋ง นั่งข้างๆ กับเพื่อน รถเฉี่ยว มันก็ตกสะพาน ทำให้กระดูกสันหลังของยิว ประมาณใต้ราวนมหักทับเส้นประสาท ตอนนั้นยังไม่รู้จะเป็นอย่างไร จะกลับมาเดินได้หรือเปล่า ตั้งแต่ใต้ราวนมจะไม่รู้สึกเลย ขาก็อ่อนแรงนาทีที่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็รู้สึกว่าเริ่มแย่แล้ว เพราว่าถ้ามันไม่ร้ายแรงมันจะต้องกระดิกได้ หรือมันจะต้องรู้สึก แต่นี้คือนอนยังไงก็ไม่รู้สึกเจ็บ เคลื่อนไหวไม่ได้ พี่พยาบาลก็จะมาถามตลอดว่ารู้ตรงนี้รู้สึกไหม ก็รู้สึกว่าแย่แล้ว”

ยิว-กรรณิการ์ ศรีวิจา บอกเล่าประสบการณ์อันเลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอ

เมื่อครั้งเป็น “เด็กหญิงยิว” ตัวเล็กๆ ความฝันของเธอคือการเป็นพยาบาล ไอดอลของเธอคือพยาบาล เพราะเธอได้มีโอกาสเห็น “นางฟ้าหมวกขาว” หรือพยาบาลของคุณปู่ ที่ดูแลคุณปู่ของเธอตอนป่วยเป็นอย่างดี อีกทั้งยังเห็นว่างานพยาบาลเป็นอาชีพที่สามารถสร้างความสุข ผ่อนคลายความทุกข์ให้กับผู้ป่วยและญาติ ด้วยการช่วยเหลือและดูแลผู้ป่วยในยามเจ็บไข้เสมือนญาติ

“ก็สนใจอยากเป็นพยาบาลตั้งแต่เด็กๆ ตอนนั้นปู่ไม่สบาย ป่วยเป็นมะเร็งปวด แล้วปู่ต้องมารักษาที่มหาราชนครเชียงใหม่ เราก็ไปเฝ้าปู่ เราก็เห็นนักศึกษาพยาบาลมาดูแลปู่ดีมาก ปู่ไม่ใช่ญาติเขา เขาเช็ด อาบน้ำ ปะแป้ง เล่นกับปู่รอแบบน่ารัก นี่แหละไอดอล ฉันอยากเป็นแบบนี้”

ไม่ใช่ทุกคนที่ฝันไกลแล้วไปถึง แต่ยิวไปถึง เธอสอบเข้าเป็นนักศึกษาพยาบาลได้สำเร็จ แต่โลกกลับถล่มเอาเมื่อเธอใกล้จะถึงเส้นชัย อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้เธอต้องสูญเสียประสาทการรับรู้ ขาทั้งสองข้างเดินไม่ได้ ขณะเป็นนักศึกษาพยาบาลชั้นปี 4 ที่ใกล้สำเร็จการศึกษาในปี 2558

แม้จะตกใจ เสียใจ เจ็บปวด แต่ความฝันยังคงกระจ่าง แม้ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล หมอจะยังไม่ยืนยันว่า เธอจะเดินได้อีกครั้งหรือไม่ แต่เธอก็ยังไม่ปล่อยความฝันให้หลุดมือ

“ถามว่าช่วงนั้นกังวลเรื่องเดินไม่ได้ไหม ก็กังวลนะ กลัวไม่ได้ไปเรียนต่อ กลัวไม่จบพร้อมเพื่อน เพราะเราถ่ายรูปจบกันหมดแล้ว มีชุดที่จะใส่ถ่ายรับพิธีจบกันหมดแล้วทุกคน แต่อึ้ง ในใจภาวนา 2 อาทิตย์ขอให้หายเถอะ ฉันจะกลับไปเรียนต่อ ฝึกงานต่อให้เสร็จ แล้วฉันจะได้จบพร้อมเพื่อน แต่มันไม่ได้ ก็เลยรอ เผื่อสัก 1 เดือนก็ได้ อยู่ด้วยความหวัง ฉันต้องออกไปให้ได้ ตอนนั้นตั้งเป้าอยู่ 2 อย่าง ทำยังก็ได้ให้ลุกขึ้นมาจากเตียงให้เร็วที่สุด และขอให้กลับไปฝึกงานให้ได้เร็วที่สุด แรกๆ ก็รู้สึกแย่ แต่พออยู่ไปมันก็เรียนรู้ แค่จะลุกมานั่ง 3 นาทียังเจ็บ แล้วจะไปเรียน จะไหวเหรอยิว ช่วยเหลือตัวเองก็ไม่ได้ ต้องมีคนมาพลิกตัวให้ ต้องแขวนน้ำเกลือ แขวนยา หลายอย่าง ทำให้เราเรียนรู้ว่า ต้องยอมรับความจริงว่า ตอนนี้เรารักษาตัวอยู่ สิ่งที่จะทำตอนนี้คือ โฟกัสการรักษาตัวเอง เพื่อที่ถ้าหายดี เราจะได้กลับไปเรียน”

ยิวรักษาตัวในโรงพยาบาลนานถึง 2 เดือน ก่อนจะกลับมาพักฟื้นที่บ้าน ต้องฟื้นฟูร่างกายอีกนาน แต่ละวันผ่านไปเธอมีชีวิตอยู่เพียงบนเตียง

แต่เพราะจิตใจที่แกร่งและความเชื่อว่าความสามารถของตนเองยังเต็มเปี่ยม แม้สองขาจะอ่อนแรง ยิวกลับมาสานฝันการเป็นพยาบาลได้สำเร็จ ด้วยการกายภาพและฟื้นฟูจากแพทย์โรงพยาบาลสันทราย ทำให้เธอช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น ประกอบกับความมุ่งมั่นที่มี ฉายชัดไปจนถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลสันทราย ทำให้เธอสามารถกลับไปเรียน และยังให้เธอได้เข้าทำงาน ฝ่าฟันจนถึงฝันได้สำเร็จ

“การเป็นพยาบาลที่ใช้ชีวิตและทำหน้าที่บนรถเข็นวีลแชร์ แน่นอนว่า ต้องยากลำบากกว่าคนปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว การใช้ชีวิตประจำวัน หรือการเดินทางไปในที่ต่างๆ ล้วนไม่สะดวกคล่องแคล่วเหมือนคนทั่วไป แต่เธอไม่เคยยอมแพ้ ใช้วีลแชร์ให้ถือว่าเป็นอวัยวะที่ 33 ในการดำรงชีวิต และทำงานคอยบริการประชาชน ออกจากบ้านเพื่อไปทำงานประมาณ 07.30 น. ใช้เวลาเดินทาง 3 นาที 200 เมตร อยู่ที่นี่อยู่คนเดียว การใช้ชีวิตคนเดียวก็ไม่ค่อยยากเท่าไหร่ ทำเหมือนคนปกติทั่วไป อย่างอาบน้ำต้องลงไปนั่งชักโครก เพราะยืนแบบคนปกติไม่ได้ อยู่ในห้องก็ใช้วีลแชร์เคลื่อนไหวไปชีวิตของเราส่วนหนึ่งให้วีลแชร์มาเติมเต็ม ยิวจะเรียกมันว่า อวัยวะที่ 33 เพราะมันสำคัญกับเรา ถ้าไม่มีมัน เราก็ไปที่ไหนไม่ได้เลย”

พยาบาลผู้เข้มแข็งรายนี้เปิดความลับให้ฟังว่า แรงบันดาลใจของเธออยู่ที่ “คุณย่า” วัย 70 ที่ช่วยเหลือพยาบาลเธอช่วยบาดเจ็บติดเตียง พลิกตัว ยกขึ้นวิลแชร์ ทำให้ยิวฮึดขึ้นมาว่า ต้องเป็นเธอสิ ที่ดูแลคุณย่า ไม่ใช่คุณย่าที่ดูแลเธอ

“ฉันต้องดูแลคนๆ นี้ให้ได้ ให้เขาได้อยู่สุขสบาย ให้เขาได้กลับบ้าน ไปมีความสุขที่บ้าน ทุกวันนี้ เขาเป็นแรงบันดาลใจทำให้เราสำเร็จ”

ยิวกล่าวว่า เธอมีความสุขมากที่ยิวได้โอนเงินให้คุณย่าทุกเดือน มีความสุขที่ได้ซื้อเครื่องใช้อะไรใหม่ๆ ในบ้าน ไปทำบ้านให้ใหม่ ให้อยู่สุขสบาย เหมือนตอนที่คุณย่าทำให้เธอ

“คุณย่าคือคนๆ หนึ่งที่สำคัญกับชีวิตมาก ถ้าไม่มีเขา อาจไม่มียิวในวันนี้ก็ได้” เธอทิ้งท้าย