เป็นเหตุสะเทือนใจ สำหรับกรณี “ลุงบุญชู” แรงงานไทยผิดกฎหมาย ลักลอบเข้าไปทำมาหากินในเกาหลีใต้ ต่อมาหายตัวไป ติดต่อไม่ได้ ที่สุดแล้วพบศพถูกทิ้งเอาไว้บนเขา โดยนายจ้างตัวเอง!
.

  • “ลุงบุญชู” ชายไทยจากจ.ขอนแก่น อายุ 67 ปี มีสถานะ “ผีน้อย”หรือ ผู้ใช้แรงงานผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ เข้าประเทศเกาหลีด้วยวีซ่าท่องเที่ยวในปี 2013
    .
  • “ลุงบุญชู” ได้งานและทำงานที่ฟาร์มหมูในเมืองโพชอน จ.คยองกี เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี
    .
  • “ลุงบุญชู” รูปร่างสัดทัด สูง 156 ซม.ไม่ดื่มสุรา ขยันทำงาน และชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวในฟาร์ม ไม่ได้ภาษาเกาหลี สื่อสารด้วยภาษามือกับนายจ้าง ติดต่อกลับเมืองไทยตลอด
    .
  • “ลุงบุญชู” ส่งเงินให้ภรรยาที่เมืองไทยทุกเดือน โดยส่งทันทีในวันเงินเดือนออก คือทุกวันที่ 21 แต่เดือนกพ.จนวันที่ 28 แล้ว ลุงหายเงียบไป จึงประสานกับคนไทยในเกาหลีให้ช่วยตามหาและเข้าแจ้งความ
    .
  • “นายคิม” นายจ้างของลุงบอกว่าลุงหนีไปแล้ว
    .
    -เจ้าหน้าที่พบศพลุงบนเขา จึงเข้าตรวจนายจ้างอีกครั้ง และได้เข้าไปตรวจห้องพักของลุง
    .
  • ไม่พบร่องรอยการฆาตกรรมหรือทำร้ายร่างกาย
    .
    -ภาพกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ในบริเวณใกล้เคียง ตำรวจพบว่า 2 วันก่อนพบร่างแรงงานไทย นายคิม เจ้าของฟาร์มขับรถไถออกจากโรงรถไปบริเวณเชิงเขา คาดว่านำศพไปทิ้ง
    .
  • สภาพแวดล้อมที่พักของ “ลุงบุญชู” แย่มากจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นที่อยู่ของมนุษย์ โรงเรือนพักถูกสร้างอย่างง่าย มีเพียงผนังปูนที่กั้นกับโรงเลี้ยงหมู พบคราบมูลสุกรไหลลงมาตามผนัง หน้าห้องพักมีซากหมูที่ห่อด้วยพลาสติก สิ่งของเกลื่อนกลาดบน พื้นปูด้วยไวนิล วอลล์เปเปอร์ขึ้นรากระจายไปทั่ว มีเสียงร้องของหมูดังตลอดเวลา เจ้าหน้าที่เข้าไปพบสภาพกลิ่นเหม็นระดับที่หน้ากาก KF94 กันกลิ่นเหม็นภายในห้อนนอนลุงไม่ได้
    .
  • มูลหมูหมักหมมก่อเป็นปฏิกิริยาเคมี โดยผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า “เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า คุณลุงถูกพบเป็นศพในที่พักในอาคารโรงนา เป็นไปได้ว่าเขาได้รับไฮโดรเจนซัลไฟด์จากมูลสัตว์” มันอันตราย”
    .
  • ตำรวจสันนิษฐาน ว่าสาเหตุมาจากปัญหาสุขภาพ และอื่นๆ อาทิ ความเป็นอยู่ที่ไม่ถูกสุขอนามัย อากาศหนาว ความชื้น แก๊สพิษจากมูลสุกร ทำให้คุณลุงเสียชีวิต ผลการตรวจนิติวิทยาศาสตร์ ไม่พบร่องรอยการฆาตกรรม นายจ้างกลัวความผิดเลยนำร่างคุณลุงไปทิ้งเชิงเขา ห่างจากที่พักประมาณ 200 เมตร
    .