.

งามไส้ลูกหลานนักการเมืองอีกแล้ว งวดนี้เป็นขาใหญ่เชียงใหม่ พฤติกรรมสุดกร่าง ชักปืนขู่คู่กรณีกลางสี่แยกไฟแดง เหตุไม่พอใจถูกบีบแตรใส่เพราะขับปาดหน้า ขณะที่ผู้เสียหายลูกครึ่งเยอรมันหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรมหลังนำหลักฐานคลิปกล้องหน้ารถเข้าแจ้งความเอาผิดแล้ว แต่ตำรวจกลับนำภาพคนอื่นมาให้ชี้ตัว หวั่นมีการสลับตัว แถมผู้ก่อเหตุโพสต์เย้ยอ้างเคลียร์ตำรวจได้ พร้อมข่มขู่จะยิงทิ้ง จนเกรงกลัวไม่ได้รับความปลอดภัย ขุดโซเชียลพบโพสต์ภาพถ่ายกับอาวุธปืนเป็นประจำ แม้กระทั่งพกเข้าไปเที่ยวในสถานบันเทิงชื่อดังย่านนิมมานฯ ชนิดไม่ยำเกรงกฎหมาย ชี้ชัดหากปล่อยปละละเลยอาจกลายเป็นภัยสังคมร้ายแรงก่อเหตุสลดอย่างไม่คาดฝัน
.
จากกรณีโซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอกล้องหน้ารถยนต์บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 พ.ค. 66 บนถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ขาเข้าเมือง บริเวณสี่แยกศาลเด็ก ในตัวเมืองเชียงใหม่ เป็นภาพที่ผู้ชายหนุ่มคนหนึ่งอายุประมาณ 20-25 ปี ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์ ปาดหน้ารถยนต์ของคู่กรณีที่มีกล้องติดหน้ารถแล้วถูกบีบแตรใส่ และเกิดความไม่พอใจจนเกิดการตะโกนด่าทอกัน ก่อนที่หนุ่มคนขับรถเบนซ์จะจอดรถและมีการชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่คู่กรณีจนเกิดความหวาดกลัวและต้องรีบขับรถหลบหนีออกไปจากจุดเกิดเหตุเนื่องจากเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย พร้อมทั้งเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจแม่ปิง ท้องที่เกิดเหตุ


.
วานนี้ (17 พ.ค. 66) เพื่อนของผู้เสียหายซึ่งไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัวได้นำข้อมูลเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อผู้สื่อข่าวเนื่องจากเกรงว่าผู้เสียหายจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในทางคดี ทั้งนี้เปิดเผยว่า ผู้เสียหายเป็นลูกครึ่งเยอรมัน ทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงก่อนเกิดเหตุขับรถมาตามถนนตามปกติ ปรากฏว่าถูกรถยนต์เก๋งเบนซ์ที่ก่อเหตุขับรถแทรกปาดหน้า จึงบีบแตรใส่ ซึ่งทำให้คนขับรถคันดังกล่าวเกิดความไม่พอใจ และจอดรถเปิดประตูชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่ โดยผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัวจึงรีบขับรถออกจากที่เกิดเหตุและนำหลักฐานทั้งคลิปจากกล้องหน้ารถที่บันทึกเหตุการณ์ไว้ครบถ้วนชัดเจน ทั้งใบหน้าของผู้ก่อเหตุ, อาวุธปืน และหมายเลขทะเบียนรถ เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจ โดยที่ทางฝ่ายผู้เสียหายได้มีการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นแล้วทราบว่าผู้ก่อเหตุ เป็นลูกและหลานนักการเมืองชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่


.
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าในเวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดีได้แจ้งผู้เสียหายว่าสืบสวนทราบแล้วว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้ใดและส่งรูปใบหน้ามาให้ดูด้วย ซึ่งผู้เสียหายดูแล้วได้ปฏิเสธและยืนยันว่าเป็นคนละคนกับที่ก่อเหตุ แต่ทางตำรวจยังคงยืนยันว่าเป็นคนคนเดียวกัน ทำให้ทางฝ่ายผู้เสียหายรู้สึกไม่สบายใจและเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากหลังจากเกิดเหตุและเข้าแจ้งความแล้ว ปรากฏว่าทางผู้ก่อเหตุยังคงมีการข่มขู่ด้วยการโพสต์ภาพอาวุธปืนในบัญชีโซเชียลมีเดียส่วนตัว พร้อมข้อความระบุในทำนองที่ว่าสามารถเคลียร์เจ้าหน้าที่ตำรวจได้และจะเอาปืนมายิงผู้เสียหายหากยังไม่ยอมยุติเรื่อง จึงทำให้ผู้เสียหายหวาดกลัวและหวั่นเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต จนต้องนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นและข้อมูลหลักฐานแจ้งให้ผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรมและติดตามการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้
.
นอกจากการตรวจสอบบัญชีโซเชียลมีเดียของผู้ก่อเหตุที่ถูกระบุว่าเป็นลูกและหลานนักการเมืองชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้นพบว่ามักจะโพสต์ภาพกับอาวุธปืนเป็นประจำ ทั้งการพกพาไปตามสถานที่ต่างๆ และการนำอาวุธปืนเข้าไปเที่ยวในสถานบันเทิงชื่อดังย่านนิมมานเหมินท์ด้วย ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถือว่าน่าจะเข้าข่ายเป็นภัยสังคมและอาจจะก่อเหตุสลดที่สร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่ผู้อื่นได้ทุกเมื่อ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังพบว่ามีการถ่ายภาพกับรถยนต์คันเดียวกับที่ก่อเหตุ ตลอดจนภาพเงินจำนวนมากและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหรูหราราคาแพงอยู่เสมอ ซึ่งอยากให้ตรวจสอบเช่นกันว่าทรัพย์สินข้าวของเครื่องใช้หรูหราราคาแพงและเงินจำนวนมากนั้น มีที่มาอย่างไรและถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
.