งานนี้มีโลกเขย่าบ้างล่ะ! หลังเหตุเรือสินค้าขนาดยักษ์เจอพายุทรายทำให้เบี่ยงจากเส้นทางที่ควรจะเป็นจนขวางคลองสุเอซ ในอียิปต์ ทำให้เรือสินค้าที่จะแล่นผ่านบริเวณนี้ติดขัดนับ 100 ลำ แน่นอนว่าโลจิสติกส์ทั้งโลกปั่นป่วน!

 

เรือ Ever Given ซึ่งเป็นหนึ่งในเรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเกิดเกยตื้นกีดขวางเส้นทางสัญจรในคลองสุเอซของอียิปต์ทั้งสองฝั่งตั้งแต่เมื่อวันอังคาร (23 มีค) ที่ผ่านมานั้น ได้ส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าทางเรือ คิดเป็นมูลค่าราว 96 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน จากการประเมินตัวเลขคร่าวๆ พบว่า เรือบรรทุกสินค้าที่มุ่งหน้าไปทิศตะวันตกขนส่งสินค้ามูลค่า 51 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน ในขณะที่เรือที่มุ่งหน้าไปทิศตะวันออกนั้นขนส่งสินค้ามูลค่า 45 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน โดยคาดว่ามีเรือบรรทุกสินค้าราว 165 ลำที่ยังคงรอการสัญจรผ่านคลองสุเอซอยู่

บลูมเบิร์กรายงานว่า มีเรือที่ยังคงรอการสัญจรอยู่ประมาณ 185 ลำ โดยในจำนวนนี้มีเรือบรรทุกสินค้าแบบเทกอง 40 ลำ ซึ่งบรรทุกสินค้าประเภทต่างๆ เช่น พืชพรรณ อาหารแห้ง และปูนซีเมนต์ รวมไปถึงเรือบรรทุกน้ำมัน เชื้อเพลิง และสารเคมี นอกจากนี้ยังมีเรือบรรทุกปศุสตว์จำนวน 8 ลำ เรือบรรทุกสินค้าทั่วไป 30 ลำ และเรือบรรทุกน้ำอีก 1 ลำ

บริษัท Inchcape ซึ่งเป็นบริษัทด้านการขนส่ง อ้างข้อมูลจากหน่วยงานกำกับดูแลคลองสุเอซระบุว่า แม้จะมีการใช้เรือลากและเรือขุดคลองเพื่อเคลื่อนย้ายเรือ Ever Given แต่จนถึงขณะนี้ความพยายามก็ยังไม่เป็นผลสำเร็จ โดยเจ้าหน้าที่ยังคงเร่งเคลื่อนย้ายเรือดังกล่าวออกจากจุดที่เกยตื้นในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น

ทั้งนี้ เรือ Ever Given สร้างขึ้นเมื่อปี 2561 มีความยาวเกือบ 400 เมตร กว้าง 59 เมตร และเป็นหนึ่งในเรือขนส่งสินค้าลำใหญ่ที่สุดในโลก โดยสามารถจุตู้คอนเทนเนอร์ได้ถึง 20,000 ตู้ในแต่ละเที่ยว

ในขณะที่ ดรธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้โพสต์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยว่า

tรือยักษ์ Ever Given (Evergreen) ติดแหง่กขวางคลองสุเอซ เกิดความปั่นป่วนด้านโลจิสติกส์ทางทะเลส่งผลกระทบทั่วโลก จึงอยากมาเล่าให้เพื่อนธรณ์ฟังครับ

เรือยักษ์ หมายถึงเรือที่จัดอยู่ในคลาส Megaships กว้าง 59 เมตร ยาว 400 เมตร ระวางขับน้ำ 22 แสนตัน ขนตู้คอนเทนเนอร์ได้ 20,000 ตู้

คลองสุเอซ อยู่ในอียิปต์ ยาว 193 กม เปิดใช้ตั้งแต่คศ1869

คลองขุดนี้ช่วยเชื่อมต่อทะเลแดง/เมดิเตอร์เรเนี่ยน ย่นย่อระยะทาง 6000-9000 กิโลเมตร ขึ้นกับต้นทางปลายทาง

ลดเวลาเรือวิ่งได้อย่างต่ำ 2 สัปดาห์ โดยไม่ต้องวิ่งอ้อมแอฟริกาทั้งทวีป

คลองสุเอซจึงสะดวกมาก ทำให้มีเรือเกือบ 19 หมื่นลำต่อปีใช้คลองนี้ คิดเป็น 30% ของสินค้าทางเรือในโลก

และคิดเป็น 12% ของการขนส่งสินค้าทั้งหมด

โดยเฉพาะเรือจากเอเชีย/ยุโรป เกือบทั้งหมดใช้คลองนี้

คลองสุเอซจึงสำคัญมหาศาล แต่เมื่อเรือยักษ์วิ่งผ่าน เจอพายุทรายในวันที่ 23 เรือเบี่ยงไปชนริมคลอง ก่อนขวางคลองในที่สุด

พายุทรายดังกล่าวเร็ว 74 กม/ชม แต่แรงแค่นั้นไม่น่าจะเบี่ยงเรือได้

ปัญหาคือพายุทรายทำให้ทัศนวิสัยต่ำมาก ประกอบกับโน่นนี่ ทำให้เรือขวางคลอง

ขวางแล้วทำไง ? นั่นคือปัญหาครับ เพราะขวางแบบสนิท เรือวิ่งไปมาไม่ได้เลย

คลองช่วงนี้กว้างแค่ 250 เมตร เรือยาว 400 เมตร ตัวเลขแค่นี้คงพอเข้าใจว่าไปไม่ได้แน่

เนื่องจากเรือยักษ์มาก และเป็นเหตุการณ์ไม่เคยเกิดมาก่อน ทำให้การแก้ปัญหาเป็นไปได้ยาก

เรืออื่นๆ จึงติดกันสนั่นโลก ถึงตอนเย็นนี้ ติดไปแล้ว 170 ลำ และสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ในอัตราวันละ 50+ ลำ

ความเสียหายมหาศาลบานเบิกทุกชั่วโมง

ส่งผลไปแทบทุกภาคส่วน เพราะมีเรือทุกประเภท เช่น เรือสินค้า เรือน้ำมัน เรือก๊าซ เรือปิโตรเคมี ฯลฯ

และความเสียหายเด้งมาสู่เราด้วย ราคาน้ำมันกำลังปั่นป่วน และอาจรวมถึงสินค้าอื่นๆ ในอนาคต 😢

แน่นอนว่าเรือมีประกัน และเท่าที่ทราบคือประกันในญี่ปุ่น (เช่ามา) แต่วงเงินยังไงก็คงไม่พอ

ยิ่งนานไปยิ่งไม่พอมากๆ แม้จะประกันเป็น 100 ล้านเหรียญก็ไม่พอแน่ครับ

อย่างไรก็ตาม น้ำมันส่งมาทางไทยอาจไม่กระทบมาก จะไปกระทบทางยุโรป

เผอิญตอนนี้ยุโรปอาจมีโควิดระลอก 3 ทำให้ความต้องการน้ำมันเบาลง ราคาน้ำมันจึงเด้งสูงตอนมีข่าววันแรก แต่เริ่มเบาลงหน่อย

ถึงตอนนี้ ไม่มีใครบอกได้ว่าเรือจะหลุดออกมาเมื่อไหร่ แม้ผู้เชี่ยวชาญไปจัดการ เห็นเข้ายังบอกว่าลำบาก

น้ำลงเราขุด แต่เห็นขนาดรถขุดเทียบกับขนาดเรือคงเครียด

น้ำขึ้นเราดัน ผมเห็นคลิปเรือ tugboat ที่ดันแล้ว ก็ต้องลุ้นตัวโก่งครับ

อีกวิธีคือทำให้เรือเบาแล้วลอยขึ้น เช่น ดูดน้ำมันออก แต่ก็ไม่ง่าย เพราะเรือไม่ได้เทียบท่า

จะเอาตู้คอนเทนเนอร์ลงจากเรือ แต่เอาลงยังไง ? เพราะต้องใช้เครนยกตู้บนสุดลงมาทีละตู้ แต่อียิปต์ไม่มีเรือเครนที่สูงพอยกตู้บนสุด

การแก้ปัญหาอาจเป็นวัน หลายวัน หรือเป็นสัปดาห์ หรือกว่านั้น

เป็นคำพูดที่กว้างดีมาก แต่คาดคั้นก็คงตอบไม่ได้

เรืออาจหลุดได้ทุกเมื่อ หรืออาจติดนานหลายวัน คงต้องลุ้นกันต่อไป

เอาเป็นว่าทุกคนพยายามทำเต็มที่ ระหว่างที่ความเสียหายเพิ่มขึ้นทุกนาที

เรือบางลำอาจตัดสินใจวิ่งอ้อมแอฟริกา แต่อย่างต่ำ 6,000 กิโลเมตร 2 สัปดาห์ ต้นทุนที่ไม่ได้เตรียมไว้บานแน่ ทำให้ส่วนใหญ่จอดรอความหวัง

ตัวอย่างเช่น เรือขนน้ำมันขนาด VLCC (Very Large Crude Carrier) จากตะวันออกกลางไปยุโรป วิ่งอ้อมแอฟริกา อาจต้องจ่ายเพิ่ม 3 แสนเหรียญ

หากหลุดได้ภายในอีกวันสองวัน คงไม่ส่งผลมาก เพราะเรือต่างๆ พอจะเร่งความเร็วชดเชยเวลาได้

แต่นานกว่านั้นคงเหนื่อย และเป็นผลกระทบที่ไม่มีใครอยากเจอแน่ โดยเฉพาะช่วงที่การค้าโลกเพิ่งเจอโควิดไปเต็มๆ

คงต้องตามติดข่าวไปเรื่อยๆ พร้อมภาวนาให้หลุดออกมาเร็วๆ

อุบัติเหตุหนนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ แต่ทุกคนในโลกจะเจ็บทางการเงิน

ขืนติดสัก 1-2 อาทิตย์ เศรษฐกิจคงไม่สวยแน่ แค่นี้ก็แย่อยู่แล้ว 😱

มาช่วยกันลุ้นให้เรือหลุดเร็วๆ ครับ