สถาบันวัคซีน กราบขอโทษพี่น้องคนไทย หาวัคซีนได้ไม่พอ แจงขั้นตอนการทำงานจัดหาวัคซีน ยันพยายามเต็มที่ ขอโทษประชาชน ปมนำเข้าวัคซีนล่าช้า เหตุไวรัสกลายพันธุ์ทำระบาดหนัก ไม่เป็นไปตามเป้า ยันเตรียมเจรจา Covax

เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ 21 ก.ค. 2564 นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวประเด็นวัคซีนโควิด-19 ว่า กลไกที่ สธ.ใช้ดำเนินการจัดหาวัคซีนมี 2 ส่วน คือ 1.กลไกตามกฎหมาย คือ คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ คณะกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2561 คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ดรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดหาวัคซีนทั้งทางตรงทางอ้อม ดำเนินการพิจารณาผ่านรูปแบบคณะกรรมการ

2.กลไกทางการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและร รมว.สธ. แต่งตั้งคณะกรรมการจัดหาวัคซีน ซึ่งมีปลัด สธ.เป็นประธาน กรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเลขาธิการ อย. อธิบดีกรมควบคุมโรค ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เลขาธิการ สปสช. ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เป็นต้น และมีการตั้งคณะทำงานภายใต้คณะกรรมการนี้ 2 ชุด โดยคณะหนึ่งเจรจาแอสตร้าฯ อีกคณะเจรจาโคแวกซ์ ซึ่งในส่วนของโคแวกซ์ยังไม่ทิ้ง มีการเจรจา นอกจากนี้ นายกฯ ยังมีการตั้งคณะกรรมการจัดหาวัคซีนทางเลือกที่มี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธาน

ด้าน นพ.นคร กล่าวว่า สถาบันวัคซีนฯ ทำหน้าที่เจรจาจะหาวัคซีน โดยการติดต่อผู้ผลิตวัคซีนทั้งที่มีวัคซีนแล้วและที่ยังอยู่ในระหว่างการวิจัย เราได้ดำเนินการตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค.63 เป็นต้นมา และพยายามหาช่องทางจองซื้อวัคซีนล่วงหน้า แม้ว่าวัคซีนจะอยู่ในขั้นตอนการวิจัย จนกระทั่ง สธ. ออกประกาศ ตาม พรบ.ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ มาตรา 18(4) ที่เปิดให้สถาบันวัคซีนฯ ทำการจองวัคซีนล่วงหน้าที่อยู่ในระหว่างการวิจัยได้ จึงเป็นที่มาในการจัดหาวัคซีนแอสตร้าฯ 61 ล้านโดส เป็นการจองล่วงหน้าตั้งแต่ ส.ค. 63

นพ.นคร กล่าวว่า ก่อนการลงนามในส่วนใดจะมีการส่งปรึกษาหารือหน่วยงานด้านกฎหมายของประเทศเพื่อให้พิจารณาก่อน ทุกอย่างในการดำเนินงานของภาครัฐจำเป็นต้องมีระบบระเบียบ จำเป็นต้องใช้เวลาในการดำเนินการ เป็นที่มาที่ทำให้เกิดความรับรู้ว่า การดำเนินการการจัดหาวัคซีนของเราอาจจะไม่ทันตามจำนวนที่คิดว่าควรจะเป็นได้ ทั้งหมดเป็นเรื่องของข้อจำกัดที่มี

“ต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชน ที่ทางสถาบันวัคซีนฯ แม้ว่าจะได้พยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ยังจัดหาวัคซีนได้ในจำนวนที่ไม่เพียงพอต่อสถานการณ์ที่เราไม่คาดคิด ในการระบาดโควิด-19 ที่เราไม่เคยเจอ และ การกลายพันธุ์ที่ไม่สามารถคาดหมายได้ล่วงหน้า ทำให้การระบาดรวดเร็วกว่าช่วงปีที่แล้ว ทำให้การจัดหาวัคซีนไม่ตรงสถานการณ์ ต้องขอกราบอภัยอีกครั้ง ” นพ.นคร กล่าว

นพ.นคร กล่าวว่า ขณะนี้ไทยยังอยู่ในระหว่างการเข้าร่วม Covax แต่ยังไม่ได้ลงนามเพื่อจัดหาวัคซีนร่วมกัน สถาบันวัคซีนได้เตรียมการ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาส่งหนังสือประสานไปยังหน่วยงานชื่อGavi เพื่อขอเจรจาจัดหาวัคซีนร่วมกับ Covax เพื่อจัดหาวัคซีนปี 2565 ก่อนจะนำเข้าคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง

ด้าน นพ.โสภณ กล่าวว่า การดำเนินงานในระดับกรมควบคุมโรค จะมีทีมเจรจากับบริษัทวัคซีนในเรื่องของข้อมูลผลการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของวัคซีน พิจารณาราคา ความเหมาะสมในประเทศไทย อย่างเช่น การขนส่งและจัดเก็บ โดยเมื่อเริ่มมีการใช้ในต่างประเทศแล้วก็จะมีการพิจารณาผลข้างเคียงของวัคซีนด้วย โดยทำงานร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ คณะผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เรื่องของวัคซีน ทั้งนี้ ในส่วนการลงนามไม่เปิดเผยข้อมูลในเอกสาร เราต้องมีการพิจารณาเอกสารอย่างรอบคอบ โดยส่งไปให้ทางสำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบร่วมด้วยก่อนลงนาม

“ส่วนหลักฐานเอกสารการจอง จะมีข้อความที่สะท้อนถึงข้อผูกมัด ที่ต้องดำเนินการร่วมกัน จะต้องมีการตรวจสอบเอกสารก่อนลงนาม และขั้นสุดท้ายคือ สัญญาการสั่งซื้อ เช่นกรณีของวัคซีนบริษัทไฟเซอร์ ที่มีการลงนามไปเมื่อวานนี้ (20 ก.ค) การทำงานแต่ละขั้นมีผู้เกี่ยวข้องหลายส่วน ทำเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยสูงสุด ทั้งเงื่อนไข การวางเงินจอง การจ่ายเงิน การส่งมอบวัคซีน ราคา และการตรวจสอบคุณภาพวัคซีน ต้องปรึกษากรมบัญชีกลางเป็นต้น ” นพ.โสภณ กล่าว

นพ.โสภณ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการเจรจาเงื่อนไขของวัคซีน จะไม่ล่าช้ากว่ากำหนดการส่งมอบ เพราะในการเจรจาเราจะรู้แล้วว่าวัคซีนที่มี จะส่งมอบได้เมื่อไหร่ เช่น บริษัทไฟเซอร์ ตั้งแต่เริ่มต้นพูดคุยกันก็ทราบว่ามีประเทศต่างๆ จองวัคซีนเข้ามาเยอะ ส่วนของประเทศไทยในวันที่เราตัดสินใจสั่งซื้อเป็นกำหนดการส่งมอบวัคซีนในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ หากว่าเราอยากได้เร็วขึ้นก็ต้องมีการเจรจาต่อรองให้ได้เร็วขึ้น บางครั้งไม่ได้เป็นไปตามที่เราต้องการทั้งหมด แม้ว่าทางบริษัทฯ ให้คำตอบว่ามีความพยายามที่จะจัดส่งให้เร็วขึ้น