เพจ “นักสังคมสงเคราะห์” โพสต์ข้อความสะท้อนมุมมอง “หนึ่ง จักรวาล” ยืนยันเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ชี้ควรปฏิบัติต่อเด็กด้วยความเคารพต่อสิทธิความเป็นส่วนตัว ต่อเนื้อตัวร่างกายของพวกเขา

จากกรณีดรามาเดือด หลังจากที่ “หนึ่ง จักรวาล เสาธงยุติธรรม” นักร้อง นักดนตรีชื่อดัง โพสต์คลิปหยอกล้อลูกสาวลงอินสตาแกรมส่วนตัว เป็นคลิปแกล้งบีบก้นและจับพุงลูก พร้อมหอมแก้มลูกด้วยความมันเขี้ยว แถมมีบางภาพล้วงมือเข้าไปในร่มผ้า งานนี้เจอชาวเน็ตเข้าไปคอมเมนต์แรงว่าไม่เหมาะสม จะอ้วก น้องโตเป็นสาวแล้ว คุณพ่อไม่ควรแตะต้องเนื้อตัวน้องแบบนั้น และไม่ควรลงในสื่อ ขณะที่มีคนเห็นต่างมองว่าเป็นการหยอกล้อกับลูก เป็นความผูกพันในครอบครัว คนคิดแบบนั้นมีแต่คนจิตอกุศลเท่านั้น ต่อมาเจ้าตัวได้ออกมาโพสต์ข้อความขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมรับปากจะระมัดระวังการแสดงออกความรักต่อลูกให้มากขึ้น

“หนึ่ง จักรวาล” โพสต์ขอโทษปมคลิปจับก้น-จับพุงลูกสาว รับปากจะระมัดระวังให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เพจ “นักสังคมสงเคราะห์เล่าเรื่อง” ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นดรามาดังกล่าวว่า

“กำลังเป็นกรณีดังในขณะนี้กับการที่นักดนตรีชื่อดังท่านหนึ่งมีคลิปวิดีโอที่แสดงความรักต่อลูกสาวโดยการสัมผัสใกล้ชิดผ่านการจับหน้าอก บางคลิปมีการล้วงกางเกงเพื่อจับก้นลูกด้วย

ในเบื้องต้นแอดมินขอยืนยันว่าเด็กจำเป็นและคู่ควรที่จะได้รับความรักผ่านการสัมผัส เช่น กอด หอม จากพ่อแม่ แต่การสัมผัสเหล่านั้นต้องสอดคล้องกับขอบเขตที่เหมาะสม และเป็นไปด้วยความเต็มใจของเด็ก (ขอบเขตที่ไม่เหมาะสม แม้เด็กเต็มใจก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้)

หลักสูตรและการเรียนรู้ที่สำคัญในการสอนเด็กให้สามารถระบุภัยทางเพศ คือการสอนให้เด็กรู้จักความรู้สึกที่ดี และความรู้สึกที่ไม่ดี ควบคู่ไปกับการรู้จักอวัยวะในร่างกายของตนเอง และขอบเขตทางร่างกายที่รู้สึกปลอดภัย และลำดับขั้นการอนุญาตที่เด็กจะมีให้คนแต่ละคนเข้ามาใกล้ หรือสัมผัสอวัยวะแต่ละส่วนของเขา

กฎเหล็กที่สำคัญคือ ในกรณีที่เด็กสามารถจัดการธุระของตนเองได้ เช่น ล้างฉี่ ล้างก้นได้แล้ว แม้แต่คนใกล้ตัวเด็กมากที่สุดอย่างพ่อแม่ ก็ไม่ควรหรือไม่มีสิทธิที่จะจับ สัมผัส อวัยวะปกปิด ซึ่งประกอบไปด้วย หน้าอก ก้น อวัยวะเพศของเด็กได้อย่างปกติ ยกเว้นในกรณีที่เด็กเจ็บป่วยหรือต้องอยู่ในสภาวะที่ต้องได้รับการดูแลเพียงเท่านั้น

เหตุที่เราจำเป็นต้องสอนเด็กเช่นนี้เพราะว่าถ้าเด็กถูกจับและสัมผัสอวัยวะปกปิดจนเป็นสิ่งปกติ เขาเองจะไม่เรียนรู้ขอบเขตที่เหมาะสมทางด้านร่างกายและเรียนรู้ความรู้สึกการเป็นเจ้าของเนื้อตัวร่างกายของเขาเอง ซึ่งจะนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะถูกทารุณกรรมทางเพศจากผู้ใกล้ชิด และจากข้อมูลสถิติ ผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กส่วนใหญ่คือบุคคลใกล้ชิดที่เด็กไว้วางใจ แอดมินเจอมาแล้วค่ะ พ่อแท้ๆ ปู่แท้ๆ น้า อาแท้ๆ มีหมด

เวลาสอนเด็กเราจึงบอกเสมอว่าถ้ามีใครมาจับก้น หน้าอก อวัยวะเพศ ให้มาบอกพ่อแม่ หรือถ้าพ่อแม่จับก็ให้มาบอกคุณครู เพื่อที่เราจะได้ทำงานกับครอบครัวเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงต่อว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าพ่อแม่ยังไม่เข้าใจ เราจำเป็นต้องให้พ่อแม่เข้าใจความจำเป็นในเรื่องนี้

สรุปประเด็นนี้นะคะ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ พฤติกรรมที่คุณพ่อแสดงต่อน้องนั้น “ไม่เหมาะสม” ค่ะ

แอดมินขอฝากทุกท่านว่าเรื่องนี้คือเรื่องไม่ปกติ ขอความกรุณาทุกท่านปฏิบัติต่อเด็กด้วยความเคารพต่อสิทธิความเป็นส่วนตัว ต่อเนื้อตัวร่างกายของพวกเขา เราเป็นผู้ใหญ่ หน้าที่ของพวกเราคือการคิดเยอะๆ ค่ะ เพราะเกิดเหตุวิพากษ์วิจารณ์มาแม้พ่อแม่เองไม่ได้มีเจตนาไม่ดี แต่ผลกระทบเหล่านี้เกิดขึ้นแก่เด็กแน่นอน อย่างน้อยๆ คือการมีรอยเท้าบนโลกออนไลน์ที่ครั้งหนึ่งพ่อและแม่พาเขาเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มเหล่านี้”