เจ้าของเขียงหมูในตลาดเกาะสมุย บ่นหมูราคาพุ่งสูง ทำลูกค้าหายหมด ไม่มีกำลังซื้อ วิงวอนไปถึงรัฐบาลช่วยเร่งแก้ไขปัญหาเข้ามาควบคุมราคาหมูอย่างเร่งด่วน ก่อนต้องปิดเขียงหนีเพราะไม่มีลูกค้า
.
จากการสำรวจการจำหน่ายเนื้อหมู ในตลาดแหลมดิน หมู่ 3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นตลาดจำหน่ายเนื้อหมูรายใหญ่ของเกาะสมุย พบว่า เขียงหมูต่างๆ ที่เปิดจำหน่ายเนื้อหมูให้ลูกค้าแบบขายปลีก ต่างบ่นกันแทบทุกเขียง เนื่องจากลูกค้าหายหน้าหายตาไปเยอะ หลังจากที่ราคาเนื้อหมูขายปลีกราคาสูงขึ้นมาก เช่น หมูสามชั้น ราคากิโลกรัมละ 225 บาท เนื้อแดง ราคา 240 บาท ทำให้จำหน่ายไม่ค่อยออก พ่อค้าแม่ค้าต้องลดปริมาณลง
.
โดยร้านหมูชุติพร ซึ่งเป็นเขียงหมูรายใหญ่ เปิดมาเกือบ 20 ปี จำหน่ายทั้งปลีกและส่งให้โรงแรมต่างๆ ในเกาะสมุย น.ส.ชุติพร เอี่ยมจันทร์ หรือ “เจ๊หนึ่ง” เจ้าของเขียงหมู เปิดเผยว่า ภายหลังราคาหมูแพงเเบบก้าวกระโดด ทำให้ราคาหมูที่เขียงต้องปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ลูกค้าหาย เนื่องจากไม่ค่อยมีกำลังซื้อ ตอนนี้หมูหน้าฟาร์มราคา 105 บาท โดยรับมาจากแผ่นดินใหญ่ และมีค่าใช้จ่ายในการขนส่งนำหมูเข้ามาบนเกาะสมุย ทั้งค่าน้ำมันรถ ค่าเรือ ค่าเคลื่อนย้าย แต่ละเที่ยวไม่ต่ำกว่า 4,000 บาท
.
สำหรับลูกค้าที่ส่งตามโรงแรมต่างๆ ปกติมีการส่งใบเสนอราคาทุก 15 วัน เช่น ราคาหมู 1-15 มกราคม ซึ่งมีการเสนอราคาไปตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2564 เพราะคิดว่าน่าจะคุมราคาอยู่ แต่เมื่อ 1 มกราคม 2565 ราคาหน้าฟาร์มกระโดดปรับขึ้นมาอีก ทำให้ตนต้องแบกภาระราคาหมูเพิ่มขึ้น เพราะไม่สามารถปรับราคาใหม่ให้ลูกค้าที่เราส่งใบเสนอราคาไปแล้วได้ ทำให้มีผลกระทบเป็นลูกโซ่ และลูกค้าลดลงไปเยอะ ลูกค้าบางท่านจับหมูแล้ว เมื่อถามราคาแล้วต้องวางตั้งไว้ที่เดิม และเปลี่ยนไปซื้ออย่างอื่นเพื่อบริโภคแทน
.
เจ๊หนึ่ง” เจ้าของเขียงหมู กล่าวต่อว่า อยากจะวิงวอนให้รัฐบาลเข้ามาควบคุมราคาหมูหน้าฟาร์มให้หน่อย เพราะหากราคาหมูสูงขนาดนี้จะมีผลกระทบต่อคนรากหญ้า ยิ่งในสถานการณ์โควิดแบบนี้ด้วยแล้ว ผลกระทบรายได้น้อยลง ในขณะราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ประชาชนบางคนตกงานอีก ยิ่งผู้ประกอบการโรงแรมปลดพนักงาน ทำให้คนตกงานเยอะ ในขณะที่ภาระค่าใช้จ่ายต้องมีการซื้อหาอาหารที่แพงขึ้น เหมือนซ้ำเติมคนรากหญ้า